วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาทให้กับคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ก็รู้กันอยู่แล้ว และกระบวนการทำเอกสารคงจะใช้เวลาไม่นาน ซึ่งต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ ถ้าสำเร็จก็จะเป็นเรื่องที่ดี พร้อมยืนยันที่จะทำตามแผน แต่ต้องอยู่กับความเป็นจริง ซึ่งหากพิจารณาได้โดยเร็วก็จะเข้าสู่ไทม์ไลน์ที่วางไว้ได้เร็ว
ภูมิธรรมกล่าวยอมรับถึงความล่าช้าของโครงการดังกล่าว เป็นเพราะรัฐบาลนี้รับฟังความเห็นของทุกฝ่าย แต่อยากทำความเข้าใจกับผู้ที่วิจารณ์ว่า โครงการนี้เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ไม่ใช่การแจกเงินทั่วไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่า พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อใช้ในโครงการดังกล่าว จะผ่าน 3 ด่านสำคัญ ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา สภาผู้แทนราษฎร และศาลรัฐธรรมนูญ หากมีการยื่นร้อง ภูมิธรรมกล่าวอย่างมั่นใจว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และจะทำให้อนาคตเศรษฐกิจไทยเมื่อถูกกระตุ้นแล้วดีขึ้น กลายเป็นทางออกให้ประชาชน เพิ่มการอยู่ดีกินดี และมีชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น
ภูมิธรรมกล่าวถึงความเห็นต่างว่า เกิดขึ้นได้ แต่อยากให้คำนึงรอบด้าน ไม่ใช่คำนึงถึงความรู้ที่ตนเองมีเพียงอย่างเดียว หรือเพียงเอาชนะคะคานกัน เพื่อชิงเป็นที่หนึ่งในดวงใจของประชาชน ส่วนตัวไม่อยากเห็นแบบนั้น อยากให้ช่วยกันทำงาน และ ประชาชนได้ประโยชน์ ถือเป็นผลงานของทุกคนร่วมกัน
รัฐบาลยินดีรับฟัง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ไม่เปิดความขัดแย้งใหม่
ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล โดยล่าสุดได้เข้าพบอดีตพระพุทธะอิสระ ที่วัดอ้อน้อย ว่าเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล ที่จะไปรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง และอดีตพระพุทธะอิสระ ขอให้สรุปมา อะไรที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลทำได้ก็จะทำ
ส่วนจุดยืนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะทำทุกเรื่องที่เป็นข้อสรุปในสังคม แต่ถ้ายังไม่มีข้อสรุป แล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เราก็ยังไม่อยากจะทำ เพราะไม่อยากสร้างความขัดแย้งใหม่ ในขณะที่เราได้สลายความขัดแย้งเดิมไปแล้ว หน้าที่ของเราวันนี้คือ ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อย่าให้ความขัดแย้งใดๆ เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนประเทศ