นับตั้งแต่ผลงานศิลปะดิจิทัล NFT ได้รับความนิยมในกลุ่มศิลปะหลากแขนง และการที่แบรนด์เริ่มมองเห็นช่องทางการในการผสมผสาน NFT เข้ากับธุรกิจ แต่สิ่งที่ KASIKORN X หรือ KX ผู้สร้างสรรค์ Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace และ สภากาชาดไทย กำลังทำร่วมกัน จะสร้างปรากฏการณ์ให้กับประวัติศาสตร์วงการศิลปะไทยและพลิกโฉมการระดมทุนที่เราคุ้นเคยในงาน ‘นิทรรศการศิลปะดิจิทัลเพื่อสภากาชาดไทย ผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี Digital Arts NFT: RedCross x KX’ โดยได้รับการสนับสนุนการจัดงานจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และไอคอนสยาม
ผลงานฝีพระหัตถ์ กรมสมเด็จพระเทพฯ ในรูปแบบ NFT เพื่อสภากาชาดไทย
ผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ จำนวน 32 ภาพ จะจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการบน NFT Innovation Wall บริเวณ ICON Art and Culture Space ชั้น 8 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 พฤษภาคม และจะจัดแสดงในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล (Non-Fungible Token: NFT) บนแพลตฟอร์ม Coral ด้วยเช่นกัน
โดยนิทรรศการผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ เป็นโครงการที่สภากาชาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเป็นปฐมศิลปินของสภากาชาดไทย พระราชทานผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ ให้สภากาชาดไทย โดยสำนักงานจัดหารายได้นำมาจัดแสดงในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ NFT
เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวว่า “ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลที่ทรงมีพระเมตตา มีความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยในการเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกันบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟูเมื่อเกิดภัยพิบัติ ทั้งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล และภัยจากโรคอุบัติใหม่ที่คุกคามสุขอนามัยของประชาชน โดยเงินรายได้จากการร่วมบริจาคผ่าน Coral Platform ทรงพระราชทานเป็นปฐมฤกษ์สมทบทุนโครงการ ‘เงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย’ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือป้องกันบรรเทาทุกข์และการฟื้นฟูเมื่อเกิดภัยพิบัติที่ครอบคลุม ทั้งภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามฤดูกาล และโรคอุบัติใหม่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่ไม่อาจคาดการณ์ได้”
พาสินี ลิ่มอติบูลย์ กรรมการสภากาชาดไทย และประธานกรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวถึงผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานให้กับสภากาชาดไทยทั้ง 32 ภาพนั้น มีทั้งภาพสีน้ำมัน สีน้ำ สีเทียน สีโปสเตอร์ และภาพพิมพ์หิน ซึ่งแต่ละภาพมีการบันทึกเรื่องราวที่พระองค์ท่านบันทึกไว้ในหนังสือ อาทิ ภาพต้นหางนกยูงและภาพแจกันสีม่วง เป็นภาพเก่าที่สุด ซึ่งทรงวาดเมื่อ พ.ศ. 2506 ขณะที่มีพระชนมายุ 8 พรรษา ทรงพระอักษรชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นอกจากนั้นยังมีภาพที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคน เช่น ภาพชาวนา ภาพกรรมกรเหมืองแร่ รวมถึงภาพที่ทรงได้แรงบันดาลใจจากบทกวีหรือในหนังสือต่างๆ ภาพวัดพระแก้ว ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2527
ชื่อภาพ แจกันสีม่วง
ทรงวาดเมื่อ พ.ศ. 2506
เทคนิค สีน้ำมัน
ชื่อภาพ ต้นหางนกยูง
ทรงวาดเมื่อ พ.ศ. 2506
เทคนิค สีเทียน
ชื่อภาพ ลำนำหมอก
ทรงวาดเมื่อ พ.ศ. 2526
เทคนิค สีน้ำมัน
ด้าน นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ ที่เห็นในงานนี้ผ่านการคัดเลือกจากผลงานมากกว่า 100 ภาพ ภาพต้นฉบับส่วนหนึ่งเป็นสมบัติส่วนพระองค์และอีกส่วนเป็นภาพพระราชทาน รวมถึงภาพที่เคยประมูลในการงานกุศลต่างๆ เชื่อว่าผู้ที่มาเดินชมงานจะได้ชมพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างและเชื่อมโยงโลกศิลปะเข้าสู่โลกดิจิทัลได้อย่างไร้ขอบเขต”
สภากาชาดไทย พลิกโฉมการระดมทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล NFT
นอกจากปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับประวัติศาสตร์วงการศิลปะไทย ในภาพของการระดมทุนที่เราเคยคุ้นก็จะถูกพลิกโฉมไปสู่ระดมทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล NFT เป็นครั้งแรก โดยมี KX ผู้สร้างสรรค์ Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace มาร่วมเป็นกำลังสำคัญของงานในครั้งนี้
จันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “งานในครั้งนี้ถือเป็นฤกษ์ดีครบรอบวันสถาปนาสภากาดไทย 129 ปี ในฐานะองค์กรการกุศลที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานและทำหน้าที่ช่วยเหลือคนไทย ภายใต้เครือข่ายการทำงานที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ที่ผ่านมาสภากาชาดไทยเปิดระดมทุนและรับบริจาคเป็นครั้งคราวตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อให้เงินระดมทุนมีเพียงพอและทันต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด จำเป็นที่จะต้องมีการจัดตั้งโครงการ ‘เงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย’ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์นี้ในอนาคต เชื่อว่าการระดมทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล NFT ที่จะเริ่มเปิดจองบนแพลตฟอร์ม Coral ในเดือนมิถุนายน จะเปิดกว้างให้กับผู้ที่สนใจและเป็นนักสะสมงานศิลปะดิจิทัลได้มีส่วนร่วมกับการระดมทุนในครั้งนี้”
ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder, KASIKORN X (KX)
ในขณะที่ KX องค์กรดิจิทัลที่มีเป้าหมายมากไปกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ แต่นวัตกรรมนั้นจะต้องมาช่วยแก้ปัญหาและสร้างโอกาสให้กับผู้คน ก็เชื่อมั่นว่าการระดมทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล NFT ผ่านแพลตฟอร์ม Coral จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่านวัตกรรมก็สร้างโอกาสให้กับผู้คนได้
ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder, KASIKORN X (KX) กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์ม Coral จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นเครื่องมือที่มอบโอกาสให้แก่ผู้คนได้ ด้วยจุดเด่นเรื่องการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coral ที่ง่ายเหมือนการช้อปปิ้งออนไลน์ เพราะไม่จำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินคริปโตให้ยุ่งยาก สามารถจ่ายด้วยเงินบาทหรือดอลลาร์สหรัฐ หรือชำระผ่านบัตรเครดิต, เดบิต และ Mobile Payment ได้ทันที สิ่งที่ Coral เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ด้วยการคัดกรองศิลปินที่นำงานเข้ามาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มว่าเป็นศิลปินตัวจริง เป็นฟันเฟืองที่จะปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงความมั่นในมาตรฐาน ETH ERC-1155 ซึ่งเป็น Global NFT Standard หนึ่งในมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกสำหรับงานศิลปะชั้นครูและงานศิลปะที่เป็นมาสเตอร์พีซ น่าจะช่วยให้ผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ บนแพลตฟอร์ม Coral เป็นเรื่องง่าย
“ความพิเศษของงานในครั้งนี้คือ เราต้องการให้ผู้ที่มาเดินชมนิทรรศการได้สัมผัสประสบการณ์จากการชื่นชมผลงานศิลปะแบบเดิมๆ และยังเข้าถึงโลกดิจิทัลได้ง่ายๆ เพราะในงานจะมี Digital Screen หรือเรียกว่า Coral NFT Walls ถ้าอยากดูข้อมูลเพิ่มเติมของภาพไหนก็สแกน QR Cord ได้ทันที”
นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ฯ จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึง 14 พฤษภาคม 2565 ที่ ICON Art and Culture Space ชั้น 8 ICONSIAM วันจันทร์-ศุกร์ เปิดให้เข้าชมเวลา 11.00-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00-20.00 น.
