หลังจากที่ขุด Bitcoin ครบ 19 ล้านเหรียญเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ความยากในการขุด (Mining Difficulty) ของสินทรัพย์ดิจิทัลหลักนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 28.587 ล้านล้าน นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้เหลือ Bitcoin อีกเพียง 2 ล้านเหรียญบนโลก ซึ่งจะต้องใช้เวลาขุดนานถึง 118 ปีเลยทีเดียว
ความยากในการขุด Bitcoin สูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา มี Bitcoin ถูกขุดครบ 19 ล้าน BTC ความยากในการขุด (Mining Difficulty) ของสินทรัพย์ดิจิทัลหลักนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 28.587 ล้านล้าน นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
ความยากในการขุดบล็อก (Mining Difficulty) เป็นตัวชี้วัดว่า Bitcoin มีความยากในการขุดมากแค่ไหน ยิ่งขุดได้ยากหมายความว่าจะใช้พลังประมวลผลมากขึ้นในการขุดจำนวนบล็อกเท่าเดิม ทำให้เครือข่ายปลอดภัยจากการโจมตีมากขึ้น ซึ่งพลังงานที่ใช้ในการขุดทั้งหมด เราเรียกว่าอัตราแฮชทั้งหมด หรือ Total Hash Rate (TH/s)
แม้ว่าความยากในการขุดของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราแฮชของเครือข่ายก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอัตราแฮชของ Bitcoin อยู่ที่ 196.07 (TH/s) อัตราแฮชลดลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 248.11 TH/s เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
จากอุปทานหมุนเวียนของ Bitcoin จำนวน 21 ล้าน BTC มีการขุดไปแล้ว 19 ล้านเหรียญในวันที่ 1 เมษายน ตอนนี้เหลือ Bitcoin ให้ขุดเพียง 2 ล้านเหรียญเท่านั้น Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ได้จำกัด BTC ให้มีเพียง 21 ล้านเหรียญในโลก เพื่อให้สกุลเงินมีความหายากและควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นจากอุปทานที่ไม่จำกัด
การขุด BTC เหรียญสุดท้ายจะต้องใช้เวลาขุดอีก 118 ปี
การขุด Bitcoin จะต้องแก้สมการทางคณิตศาสตร์ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเครือข่าย ผู้ขุดจะได้รับผลตอบแทนเป็นบล็อก Bitcoin นั่นเอง
ทุกๆ 4 ปี จำนวน Bitcoin ใหม่ที่ออกมาต่อบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเราเรียกว่าเหตุการณ์ Halving เมื่อ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 รางวัลของแต่ละบล็อกอยู่ที่ประมาณ 50 BTC และ 4 ปีต่อมาในเหตุการณ์ Halving ครั้งแรก ผลตอบแทนลดลงอยู่ที่ 25 BTC และลดลงเหลือ 12.5 BTC ในเหตุการณ์ Halving ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2016 และล่าสุดเมื่อปี 2020 ปัจจุบันจำนวน BTC ที่สร้างขึ้นใหม่ในแต่ละบล็อกอยู่ที่ 6.25 BTC เหตุการณ์ Halving ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นคร้ังที่ 4 ผู้ขุดจะได้รับ 1.56 BTC เท่านั้น สำหรับการตรวจสอบบล็อกของธุรกรรม รางวัลที่ได้จากการขุดแต่ละบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่งแบบนี้ทุกๆ 4 ปี ด้วยเหตุนี้การขุด Bitcoin จึงยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งอย่าง BTC จะถูกขุดออกครบทั้งหมดภายในปี 2140 Bitcoin จึงเป็นสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัด หายาก ส่งผลให้นักลงทุนต่างต้องการเก็บไว้เป็นการลงทุนนั่นเอง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP