#ฝุ่นกรุงเทพ ติดอันดับในโลกออนไลน์ตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ซึ่งเกินมาตรฐานมานานต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (14 ม.ค.) พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมความคิดเห็นกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ว่ากรมควบคุมโรคทำการเฝ้าระวังตรวจจับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโรคกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ โรคเส้นเลือดหัวใจ-เส้นเลือดสมอง โรคผิวหนังหรือภูมิแพ้ ตาแดง หอบหืด และถุงลมโป่งพอง ว่าคนกลุ่มนี้มีภาวะป่วยเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นหรือไม่ในช่วงระยะเวลานี้
ทั้งนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ในการติดตาม ตัวเลขยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานสูง คนกลุ่มนี้ในภาพรวมยังไม่เข้ามารักษาเพิ่มขึ้น
รองอธิบดีกรมควบคุมโรคบอกด้วยว่าสถานการณ์ในเวลานี้ไม่ถึงขั้นที่ว่าตายผ่อนส่งเพราะโรคจากฝุ่น คนโดยทั่วไปจะมีผลกระทบต่อสุขภาพต่อเมื่อต้องสัมผัสกับฝุ่นนานเฉลี่ยเกิน 8 ชั่วโมงขึ้นไป เช่น คนที่ทำงานจราจร แม่ค้าตามท้องถนน ถ้าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงนานเกิน 8 ชั่วโมงจะมีโอกาสเสี่ยงกระทบต่อสุขภาพ
“คนทั่วไปที่แข็งแรง ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง แต่สัมผัสไม่เกิน 8 ชั่วโมง โอกาสที่จะมีผลกระทบระยะสั้นค่อนข้างน้อย แต่คนที่เป็นโรคประจำตัว ขอให้ปรึกษาแพทย์ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในกรณีที่ต้องไปสัมผัสกับ PM2.5 ส่วนคนสูงอายุ เด็ก และคนที่สัมผัสฝุ่นละอองนานๆ ต้องเฝ้าระวัง ดูแลตัวเอง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด” รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
ขณะที่ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวในที่ประชุมว่าจากการเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าสาเหตุหลัก 50-60% มาจากรถเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งรถบรรทุก รถกระบะ รวมถึงรถเมล์
นอกจากนี้ยังเกิดจากการเผาในที่โล่งประมาณ 35% ส่วนอีก 5-10% เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและการลอยของฝุ่นเข้ามาจากพื้นที่อื่น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวในที่ประชุมว่า เนื่องจากพบว่าสาเหตุสำคัญมาจากรถเครื่องดีเซล จึงจำเป็นต้องเข้มงวดในเรื่องของการตรวจจับควันดำ พร้อมเสนอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อควบคุมรถบรรทุกเครื่องดีเซลให้วิ่งเป็นเวลา ขณะที่การทำฝนเทียมต้องรอให้มีความชื้นในอากาศ 60% ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้จะสามารถดำเนินการได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวาระการประชุมมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 ‘การห้ามวิ่งรถยนต์ดีเซลในพื้นที่ชั้นใน’ เป็นหนึ่งในหัวข้อของการประชุมครั้งนี้ แต่ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆ ต้องรอมติที่ประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์