วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นคนรุ่นใหม่ จำนวน 14 คน
เฉลิมชัยกล่าวว่า นี่คือช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นก้าวแรกของพัฒนาการ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีพื้นที่แสดงความเห็น แล้วจะผลักดันให้ทุกคนเหล่านี้มาเป็นผู้บริหารพรรคและผู้นำประเทศต่อไปในอนาคต รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เรายังมีคนรุ่นใหม่อีกกว่า 100 เขต ซึ่งเป็นความหวังของพรรค พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาว่า น้องๆ รุ่นใหม่ทุกคน พรรคประชาธิปัตย์ก็จะเป็นสถาบันและเป็นที่พึ่งได้ พร้อมยืนยันทุกคนมีอุดมการณ์ พร้อมจะทำงานให้กับประชาชนทุกคน
ขณะที่องอาจเปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ กทม. ครบทั้ง 33 เขตอีกครั้งในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ที่ศูนย์กีฬาเวสน์ 2 ดินแดง โดยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างคนทุกช่วงวัยและสาขาอาชีพ สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 14 คน มีดังนี้
- อภิมุข ฉันทวานิช เขตบางคอแหลม บุตรชายของ สมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์
- ศิริภา อินทวิเชียร เขตพญาไท-ราชเทวี
- ภูเบศร์ อภัยวงศ์ เขตบางซื่อ-ดุสิต เหลนของ ควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคคนแรกของพรรคประชาธิปัตย์
- ธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ เขตดอนเมือง
- วัทธิกร หรุ่นศิริ เขตสายไหม
- พันธ์พิสุทธิ์ นุราช เขตบึงกุ่ม
- เกศกานดา อินช่วย เขตคลองสามวา บุตรสาวของ วิรัช อินช่วย อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสามวา พรรคประชาธิปัตย์
- วณิชชา ม่วงศิริ เขตบางบอน-หนองแขม
- ณัฐิดา เตาเฟ็ส เขตหนองจอก
- จักรวี วิสุทธิผล เขตสวนหลวง-ประเวศ
- นพ.วรวิทย์ เจริญพงษ์ เขตบางกอกน้อย
- ธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ เขตจตุจักร อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย
- ประพฤติ ฉัตรประภาชัย เขตบางกะปิ
- ร.ต.ท. พงศกร ขวัญเมือง เขตคลองเตย-วัฒนา บุตรชายของ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ขณะที่ ร.ต.ท. พงศกรกล่าวว่า ตนเองเป็นคนที่มีความตั้งใจ อยากจะทำการเมืองตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะนโยบายสาธารณะ เพราะเชื่อว่านโยบายสาธารณะจะทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ทำงานใน กทม. มา เราได้ทำงานนโยบายสาธารณะหลายๆ โครงการ เช่นการพัฒนาคลองผดุงกรุงเกษมที่ได้รับรางวัลจากต่างประเทศ
ในช่วงที่ตนเองได้ทำงาน กทม. นั้นยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความอัดอั้นตันใจที่ยังไม่สามารถผลักดันนโยบายสาธารณะในการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่คลองเตย วัฒนา หลายเรื่องยังต้องขึ้นกับการเมืองในระดับประเทศ ทั้งการเคหะฯ, กระทรวงคมนาคม, กรมทางหลวง รวมถึงการรถไฟฯ
“ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่าจะมีสิ่งใดที่สามารถทำให้คลองเตย วัฒนาดีขึ้นได้ ได้ผลักดันนโยบายสาธารณะในกลไกระดับประเทศ ด้วยการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. และจะต้องสังกัดพรรคการเมือง และพรรคการเมืองที่ผมต้องการที่จะทำการเมืองด้วยต้องมีปัจจัยหลายอย่าง 1. มีความผูกพัน และความเข้าใจพื้นที่ กทม. 2. ต้องเป็นพรรคที่เปิดรับความเห็นนโยบาย และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ไม่มีเจ้าของแท้จริง มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน อยู่เคียงข้างคนกรุงเทพฯ ต่อไป” ร.ต.ท. พงศกรกล่าว
ร.ต.ท. พงศกรยังได้กล่าวขอบคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่คอยให้คำแนะนำปรึกษาและมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจพื้นที่คลองเตย วัฒนา ภายใต้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งมั่นใจว่าตนเองและพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้