วันนี้ (10 กันยายน) เวลา 10.30 น. ที่สมาคมจีนเก๊กเอี๊ยแห่งประเทศไทย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีกับ สุกิจ ก้องธรนินทร์ ในการรับตำแหน่งนายกสมาคมสกุลไชย (สกุลฉั่ว) แห่งประเทศไทย จากสมัยที่ 27 ไปสู่สมัยที่ 28 โดยได้ระบุว่า
ตนมาร่วมงานในครั้งนี้ ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือในฐานะที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนคนหนึ่ง และในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากตนเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แม้จะไม่ได้แซ่ฉั่ว แต่ตนมีแซ่ลิ้ม และบรรพบุรุษได้อพยพมาจากเมืองจีนเหมือนคนไทยเชื้อสายจีนในปัจจุบันทุกคน ดังนั้นจึงมีความผูกพัน และมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน
จากการที่ตนได้มีโอกาสไปร่วมงานกับสมาคมจีน และสมาคมตระกูลแซ่ในทุกโอกาสอย่างต่อเนื่อง จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในวันนี้ ซึ่งจากการที่ได้ศึกษาประวัติสกุลฉั่ว หรือแซ่ฉั่ว พบว่ามีมาอย่างยั่งยืนยาวนาน 3,000-5,000 ปี มีพี่น้องสกุลฉั่วกระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย นอกจากในกรุงเทพฯ แล้ว ก็มีกระจายไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้นสกุลฉั่วถือว่าเป็นสกุลที่ใหญ่ มีชื่อเสียง และมีส่วนสำคัญในการร่วมกันสร้างประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้
จุรินทร์ยังได้กล่าวถึงสาเหตุที่ตนมาร่วมงานสำคัญครั้งนี้ เป็นเพราะพรรคมีสมาชิกคนสำคัญได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมสกุลไชย (สกุลฉั่ว) แห่งประเทศไทย คือ สุกิจ ก้องธรนินทร์ จึงต้องขอแสดงความยินดี และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ทำให้มีสมาชิกคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมแสดงความยินดีมากมาย ตั้งแต่ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา, บัญญัติ บรรทัดฐาน, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบุคคลสำคัญอีกหลายคน แทบจะเรียกว่ายกครึ่งพรรคมาร่วมแสดงความยินดีในงานวันนี้
“งานวันนี้ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มาร่วมงานกับคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเราได้ดำเนินการเรื่องนี้มาโดยตลอด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพราะพรรคมีความผูกพันกับคนไทยเชื้อสายจีนต่อเนื่องยาวนาน พวกเรามีหัวหน้าพรรคหลายท่าน ตั้งแต่ท่านพิชัย รัตตกุล ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ มาถึงผม ล้วนเป็นคนไทยเชื้อสายจีนทั้งสิ้น ดังนั้นความผูกพันของเรามีต่อเนื่องยาวนาน ยุคหนึ่งในขณะที่คนไทยเชื้อสายจีนที่เป็นลูกต่างด้าวไม่มีสิทธิเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ต่อสู้เพื่อให้ลูกต่างด้าวได้มีโอกาสได้รับสิทธิเลือกตั้งโดยไม่จำเป็นต้องจบ ม.6 และเราได้ต่อสู้จนประสบความสำเร็จ ทำให้ลูกต่างด้าวชาวจีนมีสิทธิเลือกตั้งเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราผูกพันต่อเนื่องยาวนาน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทั้งนี้ จุรินทร์เห็นว่าสุกิจ ก้องธรนินทร์ ถือเป็นผู้ที่มีศักยภาพ และมีประสบการณ์ทั้งในฐานะนักการเมืองท้องถิ่น จนถึงการเมืองระดับชาติ รวมไปถึงการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่รักใคร่ของคนทุกองค์กร จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้สมาคมสกุลไชยแห่งประเทศไทย เจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองตลอดไป
สำหรับงานในวันนี้ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีมอบตำแหน่งนายกสมาคมสกุลไชย (สกุลฉั่ว) แห่งประเทศไทย พร้อมกับได้กล่าวแสดงความยินดีสมาคมที่ก่อตั้งมายาวนานถึง 56 ปี และมีคณะกรรมการบริหารที่มีความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบ ในการนำพาสมาคมให้มีความมั่นคง และเจริญพัฒนาส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมกับแสดงความยินดีกับ สุกิจ ก้องธรนินทร์ ในการรับตำแหน่งนายกสมาคม สมัยที่ 28
“ในฐานะที่ผมรู้จักมาหลายสิบปี เป็นบุคคลที่มีทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และมีคุณธรรม เป็นที่น่าเคารพนับถือ จึงเชื่อมั่นได้ว่าท่านจะนำพาสมาคมฯ ให้มีความเจริญก้าวหน้า และพัฒนายั่งยืนสืบไป ผมขอเป็นกำลังใจให้กับท่านสุกิจ และคณะกรรมการ และในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ขออำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล โปรดอภิบาล ประทานพรให้นายกสมาคม คณะกรรมการทุกท่าน พร้อมทั้งสมาชิกสมาคม ตลอดถึงสกุลแซ่ต่างๆ มีความสุขความเจริญก้าวหน้าในกิจการที่ทำ และมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไป” ชวนกล่าว
ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในงานพิธีส่งและรับมอบตำแหน่งนายกสมาคมฯ พร้อมกับกล่าวแสดงความยินดีกับสมาคม ที่ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ได้เจริญเติบโต ก้าวหน้า ทำคุณประโยชน์มากมาย ทั้งสำหรับประเทศไทยและประเทศจีน รวมทั้งขอบคุณนายกสมาคมที่บริหารงานจนถึงปัจจุบัน และแสดงความยินดีกับ สุกิจ ก้องธรนินทร์ โดยรำลึกถึงอดีตที่ตนได้มีโอกาสรู้จักกับสุกิจ ซึ่งถึงวันนี้เป็นเวลา 30 ปี ซึ่งท่านได้ดูแลพื้นที่ในฐานะ ส.ก. สมัยที่ตนไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สมัยแรก
“สิ่งที่ผมสัมผัสมาตลอดระยะเวลา 30 ปี คือไม่ใช่ในฐานะนักธุรกิจ หรือในฐานะนักการเมือง แต่ในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีน้ำใจ มีความเสียสละ มีความอดทน มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ผมมั่นใจว่าภายใต้การนำของท่านนายกสุกิจ สมาคมจะสามารถทำหน้าที่ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทราบว่าท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา หากได้ช่วยส่งเสริม สนับสนุนงานด้านนี้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับสังคมไทย และสังคมจีนต่อไป” อภิสิทธิ์กล่าว
