สถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ มีกระแสข่าวเกิดปฏิบัติการเลียนแบบพรรคพลังประชารัฐ ในการไล่ล่ารายชื่อกรรมการบริหารพรรคเกินกึ่งหนึ่งให้ยื่นใบลาออก เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคทั้งชุดพ้นสภาพ ในทางการเมืองนี่คือปฏิบัติการไล่หัวหน้าพรรค จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเลขาธิการพรรค เฉลิมชัย ศรีอ่อน
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวนี้ทำท่าจะมีมูลความจริง โดยจับสังเกตของท่าที ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เสียงดังว่า ‘อย่าสร้างปัญหาในพรรค’
วันนี้ (11 มิถุนายน) ชวนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องไปถามผู้ล่ารายชื่อเอง แต่ใจตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีประสบการณ์อย่างนี้มาเยอะ ทั้งเรื่องกลุ่ม 10 มกรา เป็นต้น และเหตุการณ์อื่นๆ ในสมัยก่อน เรามีบทเรียนมาก่อน ทำให้แต่ละครั้งพรรคก็กระทบ ผลต่อมาในการเลือกตั้งก็เสียหาย
“บทเรียนในอดีตควรเป็นข้อที่เตือนใจสำหรับคนที่อยู่ในพรรค แต่สำหรับคนที่อาศัยพึ่งพาพรรคอย่างพวกผม ก็เป็นหนี้บุญคุณพรรค อะไรที่จะทำให้พรรคเสียหายต้องระวัง เข้าใจว่าบางคนคิดไม่เหมือนกัน แต่ว่าพวกเราที่เป็นสมาชิกพรรคต้องคิดถึงประชาชนที่เขาเลือกเรามา อย่าให้เขารู้สึกว่าเลือกมาแล้วเราขัดแย้งกันเอง” ชวน กล่าว
ขณะที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ยอมรับว่า อดีต ส.ส. อดีตกรรมการบริหารพรรคบ่นเรื่องการบริหารพรรค บ่นเรื่องอนาคตของพรรค แต่ไม่กล้าพูดคุยกับผู้บริการพรรค
นิพิฏฐ์เปิดเผยว่า ได้รับปากเป็นคนกลางนัดคนที่ขัดข้องหมองใจคุยกับผู้บริหารพรรค เพราะต้องยอมรับว่าคนกลุ่มนี้เกินครึ่งหนึ่งไม่อยู่แล้ว ตนจึงอยากจัดให้มีโอกาสให้คนเหล่านี้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค และหลังจากนั้นได้คุยกับ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับปากว่าจะนัดให้สมาชิกที่มีความคับข้องใจได้คุยกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ตนจึงได้บอกสมาชิกว่าให้หยุด เพราะตอนนี้เขารับขันหมากเราแล้ว ถ้าเขาคว่ำขันหมากเมื่อไรค่อยเลิกไปหาแฟนใหม่ ค่อยว่ากัน แต่ขอให้รอขันหมากเขาก่อนว่าจะนัดให้ไปคุยเมื่อไร
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบใดๆ ในส่วนของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองในแต่ละส่วนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
ตนก็ทำหน้าที่ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ สามารถนำนโยบายประกันรายได้ของพรรคไปปฏิบัติจนเป็นผลได้จริงภายในเวลา 4 เดือนหลังจากเข้าร่วมรัฐบาล
เพราะว่าถ้าทำงานในคณะรัฐบาล มีผลงานที่ดี เสียงตอบรับจากประชาชนในนามพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคบริหารอยู่ก็จะตอบรับไปในทางที่ดี ส่งผลไปด้วย อันนี้คือสิ่งที่ปรากฏให้เห็น และสมาชิกพรรคจำนวนมากก็พอใจ แต่ในส่วนงานของพรรคนั้นทุกคนก็ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค กรรมการชุดต่างๆ ทุกชุดของพรรค ก็มีผลงานออกมาเป็นระยะ
“ความจริงได้พบปะกับสมาชิกอยู่เป็นประจำ ผมทำหน้าที่ภารกิจให้พรรค และทำงานร่วมกับสมาชิกพรรค ได้พบปะกันสม่ำเสมอ ถึงขนาดไปพบในแต่ละภาค ในแต่ละจังหวัดด้วย ล่าสุดได้ไปพบกับเพื่อนสมาชิกในส่วนของกรุงเทพมหานครมาแล้ว 2-3 รอบ และที่ภาคอีสานก็ไปจังหวัดขอนแก่นมา และอีกวันสองวันนี้ก็จะเดินทางไปพบกับสมาชิกพรรคที่จังหวัดศรีสะเกษและอุบลราชธานี ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบกับสมาชิกภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน วันพรุ่งนี้ก็จะไปภาคใต้ ทั้งนี้การพบปะกับสมาชิกพรรคก็มีอยู่เป็นปกติประจำในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งหากมีอะไรที่จะต้องเพิ่มเติมก็แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้อยู่แล้ว” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า