หลังสังคมไทยว่างเว้นจากการเลือกตั้งมา 7 ปี นับจากการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2554
24 กุมภาพันธ์ ถึง 5 พฤษภาคม 2562 คือกรอบเวลาตามโรดแมปที่ คสช. กำหนดให้คนไทยได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งอีกครั้ง โดยช่วงระหว่างที่รอ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ระหว่างนี้ คสช. ได้คลายล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมภายในพรรคได้บางส่วน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งที่คาดว่าจะมาถึง
พรรคประชาธิปัตย์คือพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของไทย ขยับตัวก่อนใครหลังคลายล็อกพรรคการเมือง เตรียมจัดทำข้อบังคับใหม่และเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค
พรรคประชาธิปัตย์สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 นับอายุรวมถึงวันนี้ได้ 72 ปี มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน โดยในจำนวนนี้มีถึง 4 คนที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ควง อภัยวงศ์, ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช, ชวน หลีกภัย และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่หากย้อนดูสถิติว่าด้วยการเลือกตั้งทั่วไปของพรรคการเมืองนี้ พบว่าไม่สวยงามสดใส
พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งคร้ังล่าสุดคือ การเลือกตั้งเดือนกันยายน พ.ศ. 2535 โดยพรรคประชาธิปัตย์ที่มี นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้า ได้ 79 ที่นั่ง เฉือนชนะพรรคชาติไทยที่ได้ 76 ที่นั่งไปเพียง 3 คน หลังจากน้ันเป็นเวลามากกว่า 20 ปี พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถชนะการเลือกต้ังทั่วไปได้เลย
แต่ในช่วงกว่า 2 ทศวรรษที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง พวกเขาประสบความสำเร็จในเกมการเมืองผ่านระบบรัฐสภา
โดยนายชวนได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ในปี 2540 และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคร้ังแรกในปี 2551 ซึ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีในคร้ังหลังเป็นการหยุดการเป็นฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ที่กินเวลามานานถึง 8 ปีเต็ม
ภาพประกอบ: Nisakorn R.
