วันนี้ (13 เมษายน) ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการสอบข้อเท็จจริงตามที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ปรากฏข้อเท็จจริงกรณีมีสมาชิกพรรคซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระภิกษุ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งที่จำต้องสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะพรรคในฐานะเป็นสถาบันทางการเมือง ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรค ต้องอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว
ทั้งนี้ กรรมการสอบสวนประกอบด้วย ธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ประธานกรรมการ ราเมศ รัตนะเชวง และชริน เลี้ยงกาญจนกุล มีการประชุมสรุปลงความเห็นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 คณะกรรมการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการมีความเห็นว่ามีมูลความจริง ซึ่งคณะกรรมการไม่ขอชี้แจงลงลึกไปในรายละเอียด
คณะกรรมการมีความเห็นต่อไปว่า สมาชิกพรรคคนดังกล่าวกระทำผิดข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 18 ประกอบข้อที่ 26 ที่กำหนดให้สมาชิกพรรคมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค รักษาชื่อเสียงของพรรคโดยไม่ปฏิบัติไปในทางที่จะนำความเสื่อมเสียมาสู่พรรค โดยเฉพาะมาตรฐานทางจริยธรรมที่ข้อบังคับพรรคได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตนของสมาชิกพรรค ที่ต้องอยู่ในกรอบของจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม
ในประเด็นต่อมากรณีการพ้นสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกพรรคนั้น คณะกรรมการมีความเห็นต่อไปว่า ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ข้อที่ 124 กรณีที่สมาชิกพรรคได้กระทำการฝ่าฝืนจรรยาบรรณของพรรค ควรลงโทษสมาชิกพรรคโดยให้พ้นจากสมาชิกพรรค ที่กล่าวมาเป็นสรุปสาระสำคัญผลการสอบในขั้นตอนเบื้องต้น เพื่อนำเสนอในการพิจารณาขั้นตอนต่อไปตามข้อบังคับ
ราเมศกล่าวอีกว่า สมาชิกพรรคคนดังกล่าวยื่นหนังสือลาออกจากพรรคแล้ว ซึ่งทราบว่าพรรคลงรับเข้าสู่ระบบในวันนี้ (13 เมษายน) เมื่อเวลา 09.00 น. โดยประมาณ ซึ่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะนำรายละเอียดการสอบสวนทั้งหมดประกอบใบลาออกจากสมาชิกพรรค รายงานต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป