ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย (SET) ในช่วงครึ่งวันทำการแรกของวันนี้ (12 ธันวาคม) ดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุด 13.87 จุด แตะระดับ 1,456.92 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมาอยู่ที่ 1,447.27 จุด ลดช่วงบวกลงมาเหลือ 4.22 จุด
หุ้นที่มีส่วนช่วยให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาที่สุดเช้านี้คือ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ที่มีส่วนดันดัชนี 7.5 จุด เพราะฉะนั้นหากไม่รวมผลกระทบจาก DELTA เท่ากับว่าหุ้นไทยเช้านี้จะย่อตัวจากวันก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 70% ภายใน 2 เดือน ส่งผลให้หุ้น DELTA เข้าสู่มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 โดยห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และต้องซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2567
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ดัชนี SET จะเริ่มผันผวนมากขึ้นหลังจากหุ้น DELTA หลุดออกจากมาตรการกำกับการซื้อขาย และกลับมาซื้อขายได้ตามปกติตั้งแต่วันนี้
ทั้งนี้ หากอิงจากราคาปิดเมื่อวานที่ 151 บาท การเปลี่ยนแปลงของหุ้น DELTA 1% หรือ 1.5 บาท จะส่งผลต่อดัชนี SET 0.11% หรือราว 1.5 จุด และหากดูจากสถิติครั้งล่าสุดเมื่อกลางปีก่อน หลังจากหุ้น DELTA หลุดออกจากมาตรการกำกับการซื้อขาย ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 3% และ 8% ในช่วง 1 และ 2 สัปดาห์แรก ก่อนที่จะขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 18% ในช่วง 3 สัปดาห์หลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมของปัจจัยพื้นฐานตามความเห็นของนักวิเคราะห์จาก 16 โบรกเกอร์ ต่างแนะนำให้ขายหรือถือเท่านั้น โดยประเมินราคาเป้าหมายสูงสุด 128 บาท และต่ำสุด 70.68 บาท
ด้าน บล.เคจีไอ ระบุว่า เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มของ DELTA โดยคาดว่าบริษัทจะได้อานิสงส์จากอุปสงค์เซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้น เพราะยอดขายเซิร์ฟเวอร์คิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้รวมของบริษัท ยอดขายยังมี Upside จาก Delta Taiwan เพราะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI
เราคาดว่าคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เพิ่มขึ้นจาก Delta Taiwan จะส่งผลบวกต่อ Delta Thailand ไปด้วย โดยภาพรวมแล้ว เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 เล็กน้อย 3% และปี 2569 อีก 4% โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 12% และปี 2569 จะเพิ่มขึ้น 14%
อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงบางประการที่ต้องจับตา ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม Royalty Fees และความเสี่ยงจากการที่อัตราภาษีสูงขึ้นตาม Global Minimum Tax Rate Scheme จากปัจจุบันอัตราภาษีของ DELTA อยู่ที่ประมาณ 3-5% เพราะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ซึ่งหากนำ Global Minimum Corporate Tax มาใช้ อัตราภาษีนิติบุคคลของ DELTA จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรปี 2568 มีความเสี่ยงต่ำลงจากประมาณการราว 10%
เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2568 เป็น 111 บาท จากเดิม 102 บาท อิงจาก PER ที่ 58 เท่า แม้เราจะให้พรีเมียมเพื่อสะท้อนสถานะที่ดีของบริษัทแล้ว แต่ราคาปิดล่าสุดยังคงมีความเสี่ยงจะลดลงถึงราคาเป้าหมายของเราอีก 26% ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ‘ขาย’
สำหรับผลประกอบการของ DELTA ล่าสุดในไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 5,910.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.88% จากปีก่อน ส่งผลให้ 9 เดือนแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 16,783.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% จากปีก่อน