การระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่กระจายในหลายเมืองและมณฑลของจีนนั้น ล่าสุดมาถึงอู่ฮั่นแล้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดของโควิดแห่งแรกของจีนและของโลก ส่งผลให้ทางการต้องเร่งดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนทั่วอู่ฮั่นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในเมือง ซึ่งถือเป็นการพบการติดเชื้อครั้งแรกของเมืองนี้ในรอบกว่า 1 ปี
เมื่อวันจันทร์ (2 สิงหาคม) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 7 รายในหมู่แรงงานอพยพในอู่ฮั่น เมืองทางตอนกลางของจีน ที่ซึ่งตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2019 และตัวเลขดังกลาวได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 20 รายในวันพุธ (4 สิงหาคม) ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้ป่วย 8 รายที่ไม่แสดงอาการ ตามรายงานของคณะกรรมการสุขภาพมณฑลหูเป่ย
ทั้งนี้เมืองอู่ฮั่นซึ่งมีประชากร 11 ล้านคน ถูกกักขังอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ครั้งแรกของโลกและอาจเข้มงวดที่สุดในโลกเมื่อเดือนมกราคม 2020 จนในที่สุดอู่อั่นก็ประสบความสำเร็จในการควบคุมไวรัส โดยไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลจีนได้ประกาศให้อู่ฮั่นเป็นเรื่องราวความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคระบาด
อย่างไรด็ตามสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้ทางการต้องกลับมาตื่นตัวในระดับสูงอีกครั้ง โดยเมื่อวันอังคาร (3 สิงหาคม) อู่ฮั่นได้เปิดปฏิบัติการตรวจโควิดทั่วเมือง ซึ่งมีประชาชนมาเข้าแถวรอตรวจเป็นแถวยาวตามจุดตรวจต่างๆ จนถึงช่วงค่ำ นอกจากนี้อู่ฮั่นยังระงับบริการรถประจำทาง 17 สาย และปิดสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานี
ชาวเมืองหลายคนกลัวที่จะต้องกลับไปอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด วิดีโอและภาพถ่ายที่แชร์กันบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ เผยให้เห็นชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าและแถวยาวเหยียดที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากประชาชนรีบไปตุนเสบียงอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
“การเห็นคนอู่ฮั่นตื่นตระหนกซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตทำให้ฉันรู้สึกเศร้า มีเพียงผู้ที่เคยประสบมาแล้วเท่านั้นที่จะเข้าใจว่ามันแย่แค่ไหน เรากลัวที่จะต้องกลับไปอยู่แต่ในบ้านและไม่รู้ว่าจะมีอาหารมื้อต่อไปไหม” ชาวเมืองอู่ฮั่นรายหนึ่งโพสต์ข้อความบน Weibo
ระหว่างการล็อกดาวน์ครั้งแรกของอู่ฮั่น ประชาชนหลายล้านคนได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านของพวกเขา ซึ่งการล็อกดาวน์ 76 วันในครั้งนั้นทำให้ผู้ที่ศัยอยู่ในเมืองต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนตัวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้องพึ่งพาอาศัยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการหาซื้อของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งมักจะมีราคาแพงกว่า
อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศการปิดเมืองอู่ฮั่น แต่มีการล็อกดาวน์แบบกำหนดพื้นที่ในย่านอยู่อาศัยที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อ
ทั้งนี้จีนกำลังต่อสู้กับการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 300 รายในกว่า 20 เมืองทั่วประเทศ ข้อมูลจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันจีนมีพื้นที่เสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง 144 แห่ง ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่การระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปี 2020
ความเร็วและขนาดของการแพร่กระจายได้ผลักดันให้ทางการต้องรีบจำกัดการเดินทางภายในประเทศ โดยบริการรถโค้ชระหว่างเมือง แท็กซี่ และบริการเรียกรถออนไลน์ทั้งหมดถูกระงับในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง ขณะที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนประกาศว่าจะจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนที่ไม่เร่งด่วนและไม่จำเป็นอย่างเคร่งครัด รวมถึงการอนุมัติออกหนังสือเดินทางสำหรับพลเมืองจีนอย่างเข้มงวด
สำหรับต้นตอการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาในประเทศจีนนั้น เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ซึ่งพบว่าพนักงานทำความสะอาดในสนามบิน 9 รายติดเชื้อเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ระหว่างการตรวจโควิดตามปกติ โดยทางการจีนได้เชื่อมโยงคลัสเตอร์ดังกล่าวกับเที่ยวบินจากรัสเซีย ซึ่งมาถึงสนามบินนานาชาติหนานจิงลู่โข่ว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม
“เชื่อว่าพนักงานทำความสะอาดไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดหลังจากทำความสะอาดเที่ยวบิน CA910 จนส่งผลให้ติดเชื้อ ทั้งยังแพร่กระจายต่อไปยังเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดและขนส่งขยะในเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ” สำนักข่าว Xinhua รายงาน
ตั้งแต่นั้นมา คลัสเตอร์สนามบินหนานจิงก็ได้แพร่กระจายไปยังเมืองต่างๆ อย่างน้อย 26 เมือง รวมถึงเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างจางเจียเจี้ย และกรุงปักกิ่ง เมืองหลวง โดยในเวลาเพียงสองสัปดาห์ จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศแล้วมากกว่า 480 ราย ตามรายงานประจำวันของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ การติดเชื้อทั้งหมดในประเทศจีนไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับคลัสเตอร์ในหนานจิง โดยเมื่อวันจันทร์มีรายงานการติดเชื้อในประเทศ 63 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 50 รายในเมืองเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อเดือนที่แล้ว โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับการระบาดในโรงพยาบาล ซึ่งมีภารโรง บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางการเจิ้งโจวเริ่มเดินหน้าตรวจโควิดทั่วเมืองในเชิงรุก
ขณะที่ในวันพุธ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ 71 ราย ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งมาจากมณฑลเจียงซู โดยเฉพาะเมืองหยางโจวที่อยู่ติดกับเมืองหนานจิง กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดล่าสุด หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 32 ราย
ตำรวจหยางโจวเปิดเผยว่า การระบาดในหยางโจวมีต้นตอมาจากชาวหนานจิงวัย 70 ปีรายหนึ่ง ซึ่งเดินทางมายังหยางโจวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ทั้งๆ ที่ที่อยู่ของเธอในหนานจิงถูกล็อกดาวน์
หญิงชรารายนี้ซึ่งพักอยู่ในหยางโจวกับน้องสาว ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทราบถึงประวัติการเดินทาง และได้ไปยังสถานที่แออัดหลายแห่ง เช่น ร้านอาหาร ตลาด และร้านไพ่นกกระจอก โดยเธอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 27 กรกฎาคม หลังจากที่เธอเริ่มไอและมีไข้ และผลตรวจเป็นบวกในหนึ่งวันต่อมา เธอถูกตำรวจควบคุมตัวและอยู่ระหว่างการสอบสวนฐานต้องสงสัยว่าขัดขวางการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ
ทางการระบุว่า สถานที่สำหรับเล่นไพ่นกกระจอกซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สูงอายุ มีส่วนสำคัญต่อการแพร่กระจายของโควิดในหยางโจว โดยเมื่อวันพุธเจ้าหน้าที่มณฑลเจียงซูกล่าวในการแถลงข่าวว่า 64% ของผู้ติดเชื้อ 94 รายในหยางโจวมีความเชื่อมโยงกับร้านไพ่นกกระจอก และ 68% ของผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วนั้นมีอายุมากกว่า 60 ปี
ทั้งนี้สายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วสร้างความท้าทายครั้งสำคัญต่อกลยุทธ์ ZERO COVID ของจีน ซึ่งอาศัยการปูพรมตรวจโควิด การล็อกดาวน์แบบกำหนดพื้นที่ การติดตามผู้สัมผัสอย่างกว้างขวาง และมาตรการกักตัวที่เข้มงวดเพื่อสกัดการลุกลามในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้จีนยังได้กำหนดข้อจำกัดการเดินทางทั่วประเทศ รัฐบาลท้องถิ่นของทุกมณฑลขอให้ประชาชนอย่าเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง หรือเดินทางออกนอกมณฑลที่อาศัยอยู่ เว้นแต่จะมีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รัฐบาลจีนกังวลเป็นพิเศษว่าไวรัสจะแพร่กระจายไปยังกรุงปักกิ่ง ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยขณะนี้ยังมีรายงานผู้ป่วยจำนวนไม่มากนักในปักกิ่ง หลังจากที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า ทางการปักกิ่งได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลางหรือเสี่ยงสูงเข้าเมือง ด้วยการระงับเที่ยวบิน รถไฟ และรถประจำทางจากสถานที่ที่พบการแพร่ระบาด โดยนับตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาสถานีรถไฟ 23 แห่งได้หยุดขายตั๋วโดยสารรถไฟที่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
นอกจากนี้ทางการจีนยังเข้มงวดเรื่องการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนด้วยเช่นกัน โดยในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติกล่าวว่า ทางการจะหยุดออกเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทางสำหรับพลเมืองจีนที่จะเดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลที่ไม่เร่งด่วนและไม่จำเป็น อย่างไรก็ดีจะยังคงมีการออกเอกสารการเดินทางสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการศึกษา การทำงาน หรือทำธุรกิจ
ภาพ: Feature China / Barcroft Media via Getty Images
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2021/08/04/china/china-delta-outbreaks-intl-hnk/index.html
