พายุโหมใส่ ‘บริษัทแม่ foodpanda’ หุ้นร่วงจนราคาต่ำกว่า IPO แถมมาร์เก็ตแคปหายไปแล้ว 75% หรือ 6.6 แสนล้านบาท

พายุยังคงโหมเข้าใส่ Delivery Hero ยักษ์ใหญ่ด้านการส่งอาหารที่มีต้นกำเนิดในเยอรมนี และเป็นบริษัทแม่ของแอปที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง ‘foodpanda’ ซึ่งตอนนี้หุ้นร่วงจนราคาต่ำกว่า IPO แถมมาร์เก็ตแคปหายไปแล้ว 75%

รายงานของ Bloomberg ระบุว่า หุ้นของ Delivery Hero ได้ลงต่ำกว่าราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 หลังจากการเทขายอย่างไม่หยุดยั้งในปีนี้ได้กวาดล้างมาร์เก็ตแคปไปเกือบ 3 ใน 4

มาร์เก็ตแคปของ Delivery Hero ลดลงไปแล้ว 1.81 หมื่นล้านยูโร หรือ 6.6 แสนล้านบาท จนเหลือ 6.58 พันล้านยูโร สาเหตุที่มาร์เก็ตแคปลดลงมากขนาดนี้เป็นเพราะนักลงทุนตั้งคำถามถึงเส้นทางของบริษัทสู่ความสามารถในการทำกำไรท่ามกลางต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ไม่ใช่แค่ Delivery Hero เท่านั้น แต่ในยุโรปก็ประสบปัญหาเช่นกัน โดย Just Eat Takeaway.com NV ลดลง 62% และ Deliveroo Plc ลดลง 59%

หุ้น Delivery Hero ร่วงมากถึง 2.7% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24.96 ยูโร ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2022 โดยร่วงลงต่ำกว่าราคา IPO ที่ 25.50 ยูโร เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี และยังทำให้ Delivery Hero กลายเป็นหุ้นที่มีผลงานแย่ที่สุดในดัชนี Stoxx 600 ของปี 2022 อีกด้วย

ย้อนกลับไปในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อุตสาหกรรมส่งอาหารยังคงพุ่งสูงขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของโควิด แต่แล้วความหวังที่สดใสเริ่มพังทลายลง เมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งซึ่งมาพร้อมกับการแข่งขันอย่างไม่หยุดยั้งและอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกดดันธุรกิจที่ยังไม่สามารถทำกำไร

ขณะเดียวกัน Delivery Hero ยังทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในตัวธุรกิจมากขึ้นไปอีก เมื่อบริษัทบอกว่าจะไม่เปิดเผยตัวเลขคำสั่งซื้อ เน้นที่ความสามารถในการทำกำไรมากกว่าปริมาณ พร้อมกับย้ำความเชื่อมั่นว่าธุรกิจกำลังจะถึงจุดคุ้มทุน และ ‘จะสามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในปีหน้า’

ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 Delivery Hero เปิดเผยผลประกอบการรายปี โดยมีปริมาณการขายโดยรวมที่ 3.54 หมื่นล้านยูโร ในขณะที่รายรับเพิ่มสูงขึ้น 89% เป็น 6.6 พันล้านยูโร กระนั้นนักลงทุนก็ไม่ตอบรับ เพราะหุ้นร่วงลงมากกว่า 30% และทำให้มาร์เก็ตแคปหายไป 5.1 พันล้านยูโร

เมื่อถามถึงผลกระทบของเงินเฟ้อที่มีต่อธุรกิจ Niklas Östberg แม่ทัพของ Delivery Hero กล่าวว่า บริษัท ‘ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก’ จากราคาที่สูงขึ้น แถมยกตัวอย่างการทำธุรกิจในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อ ‘สูงมาก’ เช่น ตุรกีและอาร์เจนตินา

ที่สำคัญ Delivery Hero ไม่จำเป็นต้องระดมเงินจากนักลงทุน เพราะมี ‘งบดุลที่แข็งแกร่ง’ ซึ่งมีมูลค่า 2 พันล้านยูโร โดย “เราต้องการทำให้แน่ใจว่าเราจะไม่พึ่งตลาดทุน เราไม่ต้องการที่จะถูกบังคับให้ระดมทุน” แม่ทัพของ Delivery Hero กล่าว

รายงานของ CNBC ระบุว่า ภาคธุรกิจส่งอาหารมีการควบรวมกิจการอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีบริษัทใหญ่หลายแห่งซื้อคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อพยายามนำหน้าคู่แข่ง ในตอนท้ายของปี 2021 Delivery Hero ประกาศว่าจะซื้อหุ้นใน Glovo คู่แข่งชาวสเปน

อย่างไรก็ตาม Delivery Hero ประสบปัญหาแม้กระทั่งในตลาดบ้านเกิดในเยอรมนี ซึ่งการดำเนินธุรกิจการจัดส่งอาหารต้องหยุดชะงักลงหลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่เดือน โดย Östberg ให้เหตุผลว่า Delivery Hero มาช้าไปและต้องใช้เวลาลงทุนอีก 5-10 ปี

สำหรับ Delivery Hero ให้บริการสั่งอาหารออนไลน์และบริการจัดส่งในกว่า 50 ประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เอเชีย และอเมริกา โดยมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH