ความรักจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก ซับซ้อน และไม่มีความหมายที่ชัดเจน มันจึงเปิดโอกาสให้เราสามารถนิยามมันได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับนิยามความรักในโลก Pop Culture ที่นิยามความรักแตกต่างกันไปตามเรื่องราวและประสบการณ์ของตัวละครนั้นๆ
ถึงแม้ว่าความรักจะเข้าใจได้ยากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าเราจะสัมผัสและรับรู้ถึงมันได้
ในวันวาเลนไทน์แบบนี้ THE STANDARD POP จึงขอย้อนไปเก็บนิยามความรักจากตัวละครที่คุณคิดถึง ผ่านทั้งซีรีส์ ละคร และภาพยนตร์ เพื่อส่งต่อพลังความรัก และความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้อ่านทุกคน แทนคำว่า ‘Happy Valentine’s Day’
“สำหรับแม่น่ะนะ ถึงธุรกิจล้มละลายแล้วต้องหย่าหลอกๆ จนครอบครัวเราต้องเป็นแบบนี้ แต่แม่ไม่เคยเสียใจสักครั้งที่แต่งงานกับพ่อของลูก
“เราต่างให้และรับความรัก เคารพซึ่งกันและกันมาชั่วชีวิต แม้แต่ตอนนี้ก็เหมือนกัน”
ในบางครั้งเราอาจจะมีเส้นทางชีวิตหรือเส้นทางความรักที่ราบรื่นไม่ได้ แต่เราสามารถมีความสัมพันธ์ที่คอยพยุงกัน เคารพซึ่งกันและกัน และอยากพัฒนาไปด้วยกันได้ แบบที่พ่อและแม่ของแพคอีจินเป็น
“คบคนแบบนั้นสิ คนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้อยากพัฒนาไปด้วยกัน นั่นแหละชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง”
ในบางนิยาม ‘ความรัก’ คือการมอบความหวังดีและความห่วงใยแก่กัน ปริมาณของความรู้สึกเหล่านั้นจึงถูกส่งออกมาผ่านการถามไถ่ ดูแล และปกป้อง เช่นเดียวกับที่ ชองดาจอง ตัวละครจากซีรีส์ 18 Again เคยบอกไว้ว่า
“เราจะรู้ขนาดของความรักได้ในวันที่ฝนตก ตามความลาดเอียงของร่ม”
เพราะขนาดของความรักนั้นล้วนแปรผันตามความห่วงใยและความหวังดีที่มีให้กัน ในวันที่ฝนตก ร่มคันเล็กๆ จึงลาดเอียงไปหาคนที่ถูกห่วงใยเสมอ และยิ่งความลาดเอียงของร่มมีมากเท่าไร มันก็สามารถตะโกนโดยไร้เสียงด้วยคำว่า “อย่าเปียกเลยนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ได้ดังเท่านั้น
“การรักใครสักคนเป็นเรื่องยากจริงๆ”
“การรักใครสักคนไม่ใช่แค่การอยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ แต่หมายถึงว่านายพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขา”
เพราะในทุกความรักมีส่วนผสมของ ‘ความห่วงใย’ รวมอยู่ด้วยเสมอ ดังนั้นไม่ว่าเราจะผิดใจกันแค่ไหน น้อยใจกันด้วยเรื่องอะไร เราก็ยังคงเป็นห่วงและอยากดูแลกันและกันอยู่ดี เช่นเดียวกับที่โบราพูดไว้ในตอนท้ายของบทสนทนาว่า
“การรักใครสักคนไม่ได้แปลว่าเราไม่เกลียดเขา แต่มันแปลว่าเราเกลียดเขาไม่ลงต่างหาก”
ความรักก่อตัวขึ้นในคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกช่วงเวลา แม้แต่ในหน้าประวัติศาสตร์ก็ยังมีความรักหลากหลายรูปแบบให้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างหญิงชาย หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศก็ตาม แต่แน่นอนว่าความรักในแบบหลังนั้นก็ไม่ได้ถูกยอมรับอย่างจริงจังสักครั้ง
“ผมฝันว่าสักวันเราทุกคนมีสิทธิที่จะรักคนที่เรารัก ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพศไหน ผมฝันว่าสักวันหนึ่งความรักทุกรูปแบบมันจะต้องเท่าเทียมกัน จะไม่มีการถูกรังเกียจ ถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม”
‘เทียน’ ตัวละครจาก คุณชาย พูดเอาไว้แบบนั้นในตอนจบของเรื่อง และมันน่าจะเป็นความหวังและความในใจเดียวกับที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศทุกยุคทุกสมัยมีมาตลอด
“ถึงเราจะเป็นแฟนกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้รักนะ”
พฤศจิกายนปีนี้ (2023) ภาพยนตร์ รักแห่งสยาม จะมีอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ เป็นช่วงเวลาที่คำพูดของโต้งยังใช้ได้ดีอยู่เสมอ และความรักของพวกเขาก็ยังไม่ถูกยอมรับจากสังคมเช่นเดิม เพราะสังคมของเรายังคงไม่เปิดกว้างให้กับความรักที่หลากหลายเช่นนี้ได้
อย่างไรก็ตามเราหวังว่าสักวันความรักในแบบของโต้งและมิว หรือความรักระหว่างกลุ่ม LGBTQIA+ จะถูกยอมรับอย่างเท่าเทียมทั้งในด้านของสังคมและกฎหมาย เพื่อจะได้ไม่ต้องมีคู่ไหนๆ ต้องร้างรากันไปทั้งๆ ที่ยังรักกันอีก