เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยผลการเจรจาเพื่อขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ระหว่างทีมของเขาจากฝั่งพรรครีพับลิกัน และทีมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากฝั่งพรรคเดโมแครต ว่ามีความคืบหน้า แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องงบประมาณการใช้จ่าย
หากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ จะเหลือเวลาอยู่เพียง 8 วันเท่านั้นสำหรับสหรัฐฯ ที่จะต้องบรรลุข้อตกลงเพื่อขยายเพดานหนี้สาธารณะ ก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่ภาวะถังแตกและต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ล่าสุดแรงกดดันก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ Fitch Ratings บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำได้ออกมาระบุว่า อาจจำเป็นต้องปรับลดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จากระดับสูงสุด AAA หากการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ยังไร้ความชัดเจน พร้อมปรับลดมุมมองต่อสหรัฐฯ ให้เป็นมุมมองทางลบที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด (Rating Watch Negative)
“ผมไม่ต้องการให้ตลาดตื่นกลัว เราจะบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวอเมริกันได้ในที่สุด คลังจะมีเงินไปชำระหนี้ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว” แมคคาร์ธีให้สัมภาษณ์กับ Fox Business
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ามุมมองเชิงบวกของแมคคาร์ธีจะย้อนแย้งกับหนังสือของสภาผู้แทนราษฎรที่ออกมาหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาที่ระบุว่า ส.ส. ทุกคนไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรุงวอชิงตันเพื่อโหวตขยายเพดานหนี้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
การปล่อยให้ ส.ส. สามารถเดินทางกลับบ้านได้ สะท้อนว่าการเจรจาระหว่างแกนนำของทั้งสองฝ่ายยังไม่เข้าใกล้การบรรลุข้อตกลง
“ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ส.ส. จะได้รับการแจ้งเตือนภายใน 24 ชั่วโมง และจะต้องเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อโหวตขยายเพดานหนี้ทันที ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้เลยหรือสัปดาห์หน้าก็ได้” สตีฟ สกาลิส ส.ส. รัฐลุยเซียนาของรีพับลิกันระบุ
อ้างอิง: