×

Deadpool & Wolverine การพบกันอีกครั้งในรอบ 15 ปีของสองฮีโร่ต่างขั้ว

20.07.2024
  • LOADING...

Deadpool & Wolverine นับว่าเป็นภาพยนตร์จากจักรวาล MCU ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบที่น่าสนใจมากมายจริงๆ เริ่มตั้งแต่การก้าวเข้าสู่จักรวาล MCU อย่างเป็นทางการของฮีโร่สุดเกรียนอย่าง Deadpool ที่นำแสดงโดย Ryan Reynolds หลังจากที่ Disney ได้เข้าซื้อกิจการของ 20th Century Studios ในปี 2019 และส่งให้ลิขสิทธิ์ตัวละคร Marvel ที่ Fox ถืออยู่ เช่น Deadpool, X-Men และ Fantastic Four กลับมาอยู่ในมือของ Marvel Studios

 

หรือจะเป็นการกลับมาสวมบทเป็น Wolverine อีกครั้งของ Hugh Jackman ที่แฟนๆ หลายคนเติบโตมาพร้อมกับบทบาทของเขา การได้ Shawn Levy ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Real Steel (2011), Free Guy (2021) รวมถึงซีรีส์เรื่องเยี่ยมอย่าง Stranger Things มานั่งแท่นผู้กำกับ การเป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของ MCU และอีกหลายองค์ประกอบ ที่ส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นผลงานจาก MCU ที่ผู้ชมทั่วโลกตั้งตารอ หลังจากหลายผลงานของ MCU ในช่วงหลังๆ ได้กระแสตอบรับจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

และเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของสองฮีโร่ที่ใครหลายคนหลงรัก THE STANDARD POP ถือโอกาสรวบรวมเกร็ดน่าสนใจของ Deadpool & Wolverine มาให้ทุกคนได้อุ่นเครื่อง ก่อนไปร่วมติดตามเรื่องราวของฮีโร่คู่หูคู่กัดพร้อมกัน วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ถ้าพร้อมแล้วก็ “Let’s f****** go!”

 

 

กว่าที่สองฮีโร่คู่กัดจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

 

นับเป็นเวลาร่วม 15 ปีแล้วที่สองฮีโร่ชื่อดังอย่าง Deadpool และ Wolverine ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์ร่วมกันเป็นครั้งแรกใน X-Men Origins: Wolverine (2009) ซึ่งแม้ว่าภาพยนตร์จะได้กระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะการตีความตัวละครของ Wade Wilson หรือ Deadpool ออกมาได้ค่อยไม่ลงตัว แต่ขณะเดียวกัน บาดแผลครั้งนั้นก็จุดประกายให้ Ryan Reynolds หมายมั่นที่อยากจะพา Deadpool และ Wolverine กลับมาร่วมจอกันอีกครั้งในสักวัน

 

ไม่กี่ปีจากนั้น Ryan Reynolds ก็ได้พาฮีโร่สุดเกรียนกลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง พร้อมกับนำเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากคอมิกต้นฉบับที่แฟนๆ ชื่นชอบ ทั้งฉากแอ็กชันเลือดสาด มุกตลกล้อเลียนยียวนกวนติ่ง การทลายกำแพงที่ 4 ที่ Deadpool มักจะหันมาพูดกับผู้ชม (และแน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะหยิบ Wade Wilson ฉบับ X-Men Origins: Wolverine มาล้อเลียนเช่นกัน) มาต่อยอดสู่จอภาพยนตร์จนเอาชนะใจผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด และส่งให้ภาพยนตร์ Deadpool (2016) และ Deadpool 2 (2018) สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกรวมกันไปกว่า 1,568 ล้านดอลลาร์ พร้อมขึ้นแท่นอันดับที่ 4 (ภาคแรก) และอันดับที่ 3 (ภาค 2) ภาพยนตร์เรต R ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาลอีกด้วย

 

 

กระทั่งโปรเจกต์ภาคต่อของ Deadpool กลับมาอยู่ในมือของ Marvel Studios อย่างเป็นทางการในปี 2019 Ryan Reynolds ก็เริ่มเดินหน้าพูดคุยถึงการพัฒนาภาคต่อของ Deadpool กับทาง Kevin Feige อย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ทางฝั่งของ Hugh Jackman จะตัดสินใจอำลาบทบาท Wolverine ลงเป็นที่เรียบร้อยในภาพยนตร์เรื่อง Logan (2017) อีกทั้งทาง Kevin Feige ยังเคยให้คำแนะนำกับ Hugh Jackman ว่าเขาได้ทิ้งทวนบทบาท Wolverine ไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ดังนั้นหากเขาตัดสินใจกลับมารับบทนี้อีกครั้งก็อาจจะเป็นการทำลายบทสรุปของ Logan ลงก็ได้ แต่ไอเดียในการพา Deadpool และ Wolverine กลับมาเจอกันอีกครั้งก็ยังไม่เคยหายไปจากความคิดของ Ryan Reynolds เช่นกัน

 

Ryan Reynolds เตรียมไอเดียในการสร้าง Deadpool ภาคที่ 3 ไว้มากกว่า 18 ไอเดีย ทั้งเรื่องราวการเดินทางของ Deadpool และ Wolverine ที่จะถูกนำเสนอในสไตล์ Rashomon (1950) ของผู้กำกับ Akira Kurosawa กับการเล่าเรื่อง 1 เหตุการณ์ผ่านมุมมองของ 3 ตัวละครที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือการทำเป็นภาพยนตร์สไตล์โรดทริปที่ใช้ทุนสร้างไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ และเหมาะกับการนำไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์อย่าง Sundance ไปจนถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในฉบับของภาพยนตร์ฮีโร่

 

 

ขณะที่ Ryan Reynolds และทีมเบื้องหลัง กำลังค้นหาทิศทางที่ถูกต้องสำหรับ Deadpool 3 ในที่สุดผู้ที่เข้ามาช่วยให้พวกเขาพบเรื่องราวที่ใช่ก็มาถึง นั่นคือ Hugh Jackman ที่ตัดสินใจกลับมารับบท Wolverine อีกครั้ง หลังจากเขาได้มีโอกาสดู Deadpool 2 ก่อนที่วันหนึ่งเขาจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “สิ่งที่เขาอยากทำจริงๆ คืออะไร” และคำตอบของเขาคือการกลับมารับบท Wolverine ในโปรเจกต์ภาคต่อของ Deadpool จากนั้นเขาได้ติดต่อกับ Ryan Reynolds เพื่อนคู่หูคู่กัดของเขา ว่าเขาสนใจที่จะมาร่วมโปรเจกต์นี้

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างตระหนักดีถึงความรู้สึกของแฟนๆ ที่มีต่อภาพยนตร์เรื่อง Logan ดังนั้นเพื่อเป็นการเคารพต่อผลงานดังกล่าว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวของ Wolverine ในอีกเวอร์ชันหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Wolverine ในฉบับของภาพยนตร์ชุด X-Men ที่แฟนๆ รู้จัก ขณะเดียวกัน เราก็จะได้มาสำรวจแง่มุมใหม่ๆ ของตัวละครนี้ที่ทุกคนอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน

 

 

Shawn Levy ผู้กำกับมากประสบการณ์ที่เข้ามาเติมเต็มให้โปรเจกต์นี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

Shawn Levy นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับมากประสบการณ์ที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดฮิตหลายเรื่อง ซึ่งนอกจากที่ผลงานของเขาจะมอบความบันเทิงครบรสแก่ผู้ชมแล้ว เขายังนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกจนสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมได้ดีอีกด้วย เช่น Real Steel กับเรื่องราวความสัมพันธ์ของอดีตนักมวย (รับบทโดย Hugh Jackman) และลูกชายที่ถูกเชื่อมโยงด้วยหุ่นยนต์นักสู้ หรือ Free Guy กับเรื่องราวของตัวประกอบ (รับบทโดย Ryan Reynolds) ในวิดีโอเกม ที่จู่ๆ ก็ต้องกลายมาเป็นผู้กอบกู้โลกที่เขาอาศัยอยู่

 

ซึ่งผู้ที่แนะนำให้ Shawn Levy มารู้จักกับ Ryan Reynolds ก็คือ Hugh Jackman จากนั้น Shawn Levy และ Ryan Reynolds ก็ได้ร่วมกันสร้างสรรค์สองภาพยนตร์อย่าง Free Guy และ The Adam Project (2022) ซึ่งต่างก็ได้กระแสตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน และด้วยมิตรภาพที่ดีของทั้งคู่ Ryan Reynolds จึงตัดสินใจชวน Shawn Levy มานั่งแท่นผู้กำกับภาคต่อของ Deadpool ครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม Shawn Levy เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่านี่ไม่ใช่ Deadpool ภาคที่ 3 เสียทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาและทีมงานเบื้องหลังอยากจะโฟกัสมากที่สุดคือเรื่องราวการผจญภัยของคู่หู Deadpool และ Wolverine มากกว่าจะเน้นที่เรื่องราวของ Deadpool เพียงคนเดียว

 

และแม้ว่าผู้กำกับจะมีวัตถุดิบมากมายจากจักรวาล MCU และ X-Men ให้เลือกสรร รวมถึงผู้ชมหลายคนก็น่าจะจับตามองว่าการมาถึงของ Deadpool, Wolverine, X-Men และเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ครั้งนี้จะส่งผลต่ออนาคตของจักรวาล MCU อย่างไร แต่ในมุมของผู้กำกับและทีมสร้างก็เชื่อว่าเรื่องราวการเผชิญหน้ากับอดีตอันขมขื่นของ Deadpool และ Wolverine คือหัวใจสำคัญของเรื่องมากกว่าจักรวาล MCU โดยรวม นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ Deadpool & Wolverine นั่นเอง

 

 

เมื่อฮีโร่สุดเกรียนและฮีโร่ขี้โมโหต้องร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจครั้งสำคัญ

 

Deadpool & Wolverine จะเล่าเรื่องราวห่างจากเหตุการณ์ในภาคที่ 2 ประมาณ 6 ปี เมื่อ Wade Wilson ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตธรรมดาๆ เช่นเดียวกับคนทั่วไป และหาเลี้ยงชีพจากการทำงานเป็นพนักงานขายรถมือสอง กระทั่งวันหนึ่งเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ Time Variance Authority หรือ TVA ที่นำโดย Mr.Paradox (Matthew Macfadyen) จับตัวไป และมอบหมายให้เขาออกตามหาหนึ่งในตัวแปรของ Wolverine ที่ไม่สามารถปกป้องโลกของเขาไว้ได้ เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะสูญเสียผู้คนที่เขารักไป

 

 

ทีมงานเบื้องหลังและทัพนักแสดงมากฝีมือ

 

นอกจากชื่อของผู้กำกับ Shawn Levy แล้ว Deadpool & Wolverine ยังได้ Rhett Reese และ Paul Wernick สองมือเขียนบทจาก Deadpool สองภาคแรก, Zeb Wells จากซีรีส์ She-Hulk: Attorney at Law (2022) และ Ryan Reynolds เจ้าของบท Deadpool มารับหน้าที่เขียนบทร่วม พร้อมด้วย George Richmond จาก Free Guy มารับหน้าที่กำกับภาพ, Shane Reid จาก Ghostbusters: Frozen Empire (2024) และ Dean Zimmerman จากซีรีส์ Stranger Things มารับหน้าที่ตัดต่อ, Ray Chan จาก Dungeons & Dragons: Honor Among Thieves (2023) มารับหน้าที่ออกแบบงานสร้าง, Mayes C. Rubeo จาก Thor: Ragnarok (2017) และ Graham Churchyard จาก Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) มารับหน้าที่ออกแบบเครื่องแต่งกาย และ Rob Simonsen จาก Ghostbusters: Afterlife (2021) มารับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบ

 

พร้อมด้วยทีมนักแสดงจาก Deadpool สองภาคแรกที่จะกลับมาร่วมรับบทเดิมอีกครั้ง ทั้ง Morena Baccarin, Karan Soni, Leslie Uggams, Shioli Kutsuna, Brianna Hildebrand, Lewis Tan, Randal Reeder และ Stefan Kapičić

 

 

เสริมทัพด้วยนักแสดงชุดใหม่อย่าง Emma Corrin นักแสดงมากฝีมือจากซีรีส์ The Crown มารับบทเป็นตัวร้ายหลัก (?) ของเรื่องอย่าง Cassandra Nova พี่น้องฝาแฝดของ Charles Xavier ซึ่งกำเนิดขึ้นมาจากปรสิตจากต่างดาว และ Matthew Macfadyen จากซีรีส์ Succession (2018) มารับบทเป็นเจ้าหน้าที่ TVA คนใหม่อย่าง Mr.Paradox

 

นอกจากนี้ ยังมีบรรดานักแสดงจากภาพยนตร์ชุด X-Men ที่จะกลับมาสวมบทเดิมอีกครั้งให้แฟนๆ หายคิดถึง เช่น Tyler Mane จาก X-Men (2000) กลับมารับบทเป็น Sabretooth, Aaron Stanford จาก X2: X-Men United (2003) และ X-Men: The Last Stand (2006) กลับมารับบทเป็น Pyro, Kelly Hu จาก X2: X-Men United กลับมารับบทเป็น Lady Deathstrike, Ray Park จาก X-Men กลับมารับบทเป็น Toad รวมถึง Jennifer Garner จาก Daredevil (2003) ที่จะกลับมารับบทเป็น Elektra อีกครั้ง ไปจนถึงบรรดาตัวละครที่แฟนๆ คาดเดากันว่า “อาจจะ” มีโอกาสมาปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกมากมาย ทั้ง Owen Wilson ในบท Mobius จากซีรีส์ Loki (2021), Patrick Stewart และ Ian McKellen จากภาพยนตร์ชุด X-Men ในบทของ Professor X และ Magneto ฯลฯ

 

Deadpool & Wolverine มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่: https://youtu.be/2hLrI54r3T4?si=P-1i_e66u0dA2IIQ

 

 

ภาพ: Marvel, IMDb

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising