×

ปลัดดีอี ไขปมร้อน ‘แค่ระงับวงเงิน ไม่ใช่อายัดบัญชี’ กำลังเร่งตรวจสอบเพิกถอนการระงับให้ผู้บริสุทธิ์

14.09.2025
  • LOADING...
de-mule-account-temporary-hold

วันนี้ (14 กันยายน 2568) จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์เกี่ยวกับปัญหาประชาชนหลายคนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกอายัดบัญชีธนาคาร เพราะเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการบัญชีม้า

 

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ชี้แจงว่า เช้าวันนี้ (14 กันยายน) ศูนย์รับเรื่องได้รับสายร้องเรียนจากประชาชนกว่า 600-700 สาย ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นการอายัดบัญชีทั้งบัญชี

 

พร้อมอธิบายว่า มาตรการดังกล่าว ‘ไม่ใช่การอายัดบัญชี’ แต่เป็นการ ‘ระงับวงเงินชั่วคราว’ ตามกรอบพระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเส้นทางการเงินและดึงเงินกลับคืนให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงได้

 

“หากเงินที่ถูกโอนโดยมิจฉาชีพไหลไปอยู่ในบัญชีใด ธนาคารจะระงับเฉพาะจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ปิดบัญชีทั้งบัญชี ยกเว้นกรณีที่ตำรวจออกหมายอายัดตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้บัญชีไม่สามารถใช้งานได้เลย” ปลัดดีอีฯ ย้ำ

 

และอธิบายว่า กลไกนี้ถูกกำหนดไว้ใน มาตรา 6 และมาตรา 7 ของพระราชกำหนด โดยธนาคารจะทำการระงับการทำธุรกรรมเฉพาะวงเงินที่เกี่ยวข้องกับการโอนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบชั่วคราวกับการใช้งานบัญชี เนื่องจากบางบัญชีมีการเคลื่อนไหวเงินต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ ธนาคารหลายแห่งได้ขึ้นข้อความแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งว่า ‘ถูกอายัด’ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าไม่สามารถใช้บัญชีได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงยังสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ เพียงแต่ไม่สามารถใช้เงินก้อนที่ถูกระงับไว้

 

เปิดขั้นตอนขอเพิกถอนการระงับ

 

ส่วนในกรณีที่เจ้าของบัญชีได้รับผลกระทบจากการระงับวงเงิน สามารถติดต่อขอเพิกถอนการระงับได้ โดยจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก

 

  1. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยธนาคารทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน
  2. ตรวจสอบพฤติกรรมบัญชี ร่วมกับตำรวจและศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ว่ามีลักษณะปกติหรือเข้าข่าย ‘บัญชีม้า’ หรือไม่
  3. ตรวจสอบวงเงินและความสมเหตุสมผล ว่าสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตตามปกติ และไม่ซ้ำซ้อนกับบัญชีที่ถูก ปปง. หรือหน่วยงานยุติธรรมอื่นอายัดไว้แล้ว

 

หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีคำสั่งปลดการระงับธุรกรรมชั่วคราวได้ทันที

 

สำหรับความกังวลว่ากระบวนการจะล่าช้า ปลัดดีอีฯ ยืนยันว่า การตรวจสอบใช้เวลาไม่นาน เพราะข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ สามารถตรวจสอบจากธนาคารและเส้นทางการเงินได้ในไม่กี่นาที โดยล่าสุดได้มีการทดลอง (POC) ร่วมกับธนาคารหลายแห่ง พบว่าสามารถปลดการระงับได้รวดเร็วในหลายกรณี แต่ขณะเดียวกันก็พบว่ามีบัญชีจำนวนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง จึงไม่สามารถปลดล็อกได้

 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริสุทธิ์และป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้ระบบการเงินในการกระทำความผิด พร้อมยืนยันว่าจะเร่งรัดกระบวนการให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด สามารถกลับมาใช้บัญชีและทำธุรกรรมได้ตามปกติ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนเกินความจำเป็น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising