ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยถึงจำนวน ‘ร้านโชห่วย’ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเป็นร้านที่มีอยู่ทุกหมู่บ้าน โดยประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก โชห่วยขนาดกลาง จำนวน 18,735 ร้านค้า และโชห่วยขนาดเล็กประมาณ 400,000 ร้านค้า
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการที่ ‘ร้านค้าโชห่วย’ คือหนึ่งในฟันเฟือนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ตลอดจนเป็นธุรกิจที่อยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนาน
กระนั้นด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการระบาดของโรคโควิดซึ่งกินเวลาเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว กลายเป็นความท้าทายที่ทำให้ ‘ร้านค้าโชห่วย’ ต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวต่อไปในวันข้างหน้าได้
เพื่อช่วยให้ ‘ร้านค้าโชห่วย’ สามารถปรับตัวให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป ‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า’ จึงได้ผนึกกำลังกับ ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ ในการเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนไทยให้สามารถปรับตัวได้ในยุคดิจิทัล พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ร้านค้าสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
ความร่วมมือดังกล่าวจะเข้ามาช่วย “ยกระดับสินค้าเข้าสู่โลกดิจิทัล ครอบคลุมทั้ง ร้านค้าสินค้าพื้นถิ่นไทย (Smart Local), ชุมชนต้นแบบ (Smart Village) และ Smart โชห่วย ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และกิจกรรมที่หลากหลายของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการชุมชนในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์” ทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ขณะเดียวกันยังเข้ามาช่วยผลักดันให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสด สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 องค์กรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นการสร้างการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ควบคู่กับการผลักดันการจ้างงานในชุมชน
สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ ท่ามกลางบริบทของโลกยุคดิจิทัลที่ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายคนหันมาซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยต้องปรับวิธีการขายเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
“ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยเสริมศักยภาพการทำธุรกิจแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว นับเป็นพลังสำคัญในการยกระดับสินค้าชุมชนเข้าสู่โลกดิจิทัล พร้อมช่วยส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการร้านค้าชุมชนไทยผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและกิจกรรมต่างๆ ของธนาคาร” อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าว
ความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธนาคารไทยพาณิชย์ ครอบคลุม 4 แกนหลัก ได้แก่
- ปรับโฉมร้านค้าเข้าสู่โลกไร้เงินสด ให้มีเครื่องมือรองรับการชำระเงินครบวงจร (Digital Payment) รับชำระค่าสินค้าผ่านคิวอาร์โค้ด รองรับทั้งบัตรเครดิต/เดบิต และการผ่อนชำระผ่านแอปพลิเคชันแม่มณี พร้อมขยายตัวเป็นร้านค้าออนไลน์กับ ‘มณี โซเชียล คอมเมิร์ซ’
- กิจกรรมเสริมความรู้ ต่อยอดธุรกิจ สร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเดินหน้าทำธุรกิจบน E-Commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สินเชื่อเพื่อขยายกิจการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อได้
- ขยายช่องทางการตลาด เพิ่มยอดขายให้ร้าน Smart Local ที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีหน้าร้าน และรับชำระด้วยแอปพลิเคชันแม่มณี เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้นผ่านช่องทาง Social Media ของธนาคาร
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ SCB Call Center โทร 0 2777 7777 และสาขาธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ
และที่พลาดไม่ได้คือ มีการมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่สมัครแอปพลิเคชันแม่มณีใหม่ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2565 รับฟรี! ชุดพรีเมียมจากแม่มณีอีกด้วย