DAZN (ดะโซน) Netflix ของโลกกีฬา ผู้โค่นการถ่ายทอดสดกีฬาทางทีวี?

สิ่งหนึ่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในเวลานี้ของโลกฟุตบอลโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน คือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันที่กำลังเคลื่อนตัวจากโทรทัศน์เข้าสู่โลกออนไลน์แบบเต็มตัวมากขึ้นทุกขณะ

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่านอกจากการรับชมฟุตบอลนัดเปิดสนามของทีมชาติไทยที่เสมอกับกาตาร์ 1-1 ผ่านโทรทัศน์แล้ว ก็มีแฟนบอลช้างศึกอีกจำนวนไม่น้อยที่รับชมผ่านเพจของ Workpoint ผู้คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซียไปครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ลิขสิทธิ์ในส่วนนี้เป็นของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือทีวีพูล ซึ่งประกอบไปด้วยช่องโทรทัศน์ 3, 5, 7, 9 และ NBT ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มหกรรมกีฬาตั้งแต่ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกมาก่อนหน้านี้

นอกจากนั้นเมื่อเวลา 19.41 น. ระหว่างที่ฟุตบอลทีมชาติไทยกำลังไล่ตามหลังกาตาร์อยู่ 0-1 ฟีดเฟซบุ๊กสถานที่รับชมฟุตบอลและข่าวสารของผู้คนในยุคปัจจุบันก็แจ้งเตือนเราผ่านเพจ Goal Thaiand ว่า

Official: ดูฟรีที่นี่! Goal คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดยูฟ่าซูเปอร์คัพ

เป็นการตอกย้ำซ้ำเติมไปอีกว่าหากคุณเป็นคอบอลตัวจริง คุณไม่ต้องไปไหนแล้ว อยู่ในพื้นที่นี้ที่ Facebook ได้เปิดให้ผู้คนทั่วไปได้ใช้บริการตั้งแต่ปี 2006 และเสพทั้งสเตตัสที่เพื่อนๆ อวดสกอร์ที่ลิเวอร์พูลเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไป 4-0 ในขณะเดียวกัน เตรียมรับชมศึกฟุตบอลยูฟ่าซูเปอร์คัพระหว่างเรอัล มาดริด และแอตเลติโก มาดริด ในคืนวันที่ 15 สิงหาคมนี้ได้ทาง Facebook

ซึ่งฟุตบอลยูฟ่าซูเปอร์คัพครั้งนี้ทำให้แฟนบอลหลายคนเริ่มหาคำตอบว่าสรุปแล้วลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนี้ไปอยู่กับใคร เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีผู้ให้บริการใดประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปในปีนี้

จนสุดท้ายค้นพบว่าผู้ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในฤดูกาลนี้คือ DAZN บริษัทผู้ให้บริการสตรีมมิงคอนเทนต์กีฬาผ่านระบบ Over the Top (OTT) สัญชาติอังกฤษที่คว้าสิทธิ์ไปทั้งหมด 3 ฤดูกาลภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ Goal.com

และนี่เองคือจุดเชื่อมโยงระหว่างการที่ Goal ประเทศไทย ประกาศถ่ายทอดสดยูฟ่าซูเปอร์คัพกับ DAZN ผู้คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018-21 ไปครอง แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะรับชมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกผ่านทางช่องทางไหน

DAZN คือใคร

DAZN เป็นบริษัทที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Perform Group ผู้ให้บริการคอนเทนต์กีฬาทุกรูปแบบตั้งแต่ Perform Media, Perform Content, Perform Gaming และ DAZN สตรีมมิงกีฬาสดผ่านระบบ OTT

ก่อนจะเข้าถึง DAZN เราอาจต้องสำรวจความเป็นมาของบริษัทแม่ Perform Group ที่ให้บริการคอนเทนต์กีฬาแบบครบวงจรกันก่อน

Perform Group ก่อตั้งเมื่อปี 2007 เกิดจากการรวมตัวระหว่างธุรกิจบรอดแคสติ้งถ่ายทอดสดกีฬา Premium TV Limited และ Inform Group เอเจนต์ลิขสิทธิ์กีฬา และได้ตั้งชื่อใหม่ว่า Perform ซึ่งได้เริ่มเทกโอเวอร์ Goal.com สื่อกีฬาฟุตบอลในปี 2011

ในปี 2011 และ 2013 ได้เทกโอเวอร์ผู้ให้บริการสถิติกีฬาทั้ง RunningBall และ Opta Sports และ 3 ปีต่อมาพวกเขาก็เปิดตัว DAZN บริษัทผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ Perform กลายเป็นผู้สร้างคอนเทนต์กีฬา ผู้รวบรวมสถิติกีฬา และผู้ถ่ายทอดสดกีฬาผ่านระบบสตรีมมิงแบบครบวงจร

Photo: DAZN

ดอม เวดจ์วูด หัวหน้าฝ่ายโปรดักชันการถ่ายทอดสดของ Perfrom Group ได้ให้สัมภาษณ์กับ Forbes ว่าเรื่องราวของ DAZN จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นหลัก

“คอนเทนต์กีฬาคือวิดีโอ สถิติ และบทบรรณาธิการต่างๆ ประสบการณ์ของผู้คนวงการนี้กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยสถิติ

“เราคิดว่าเราพบเจอสิ่งที่ตรงใจกับแฟนกีฬาในยุคปัจจุบันด้วยการมอบทางเลือกหลากหลายและสามารถยืดหยุ่นได้ แน่นอนว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนในวงการ และจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับพวกเรา”

Photo: DAZN

จุดเด่นของ DAZN คือความยืดหยุ่นสำหรับแฟนกีฬาด้วยระบบสมาชิกที่สามารถเลือกพักช่วงเวลาสัญญาการใช้บริการได้ ต่างกับระบบสมาชิกก่อนหน้านี้ที่มีสัญญาระยะเวลายาวถึง 12-18 เดือนจากผู้ให้บริการบรอดแคสติ้งยักษ์ใหญ่ในอดีต ระบบของพวกเขาตัดผ่านช่องทางการรับชมแบบเคเบิลและดาวเทียม และส่งตรงคอนเทนต์สู่ลูกค้าด้วยอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในการรับชม

โดยนับตั้งแต่เปิดตัวการให้บริการในปี 2016 ในประเทศออสเตรีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ปัจจุบันพวกเขาได้เจาะตลาดสหรัฐฯ แคนาดา และอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยด้วยการให้บริการถ่ายทอดสดกีฬาตั้งแต่ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฟุตบอลลีกสูงสุดของยุโรปทั้งอังกฤษ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และโปรตุเกส นอกจากนี้ยังมีกีฬาชนิดอื่นๆ ทั้งบาสเกตบอล NBA เบสบอล MLB รวมถึงกีฬาอย่างรักบี้ เทนนิส มอเตอร์สปอร์ต และคริกเก็ต

DAZN Netflix ของวงการกีฬากับความท้าทายของวงการสตรีมมิง

Photo: DAZN

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการใช้งาน Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านระบบ OTT จากสหรัฐฯ มาบ้างแล้ว ซึ่งระบบของ DAZN จะมีความคล้ายกันตรงที่สมาชิกสามารถรับชมคอนเทนต์กีฬาต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้แบบ On Demand ที่ใดก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายตั้งแต่ PlayStation4 ถึงสมาร์ทโฟน

แต่สิ่งที่ DAZN แตกต่างจาก Netflix ตรงที่การให้บริการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายสำหรับบริษัทที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการกีฬาในเวลานี้

แต่พวกเขายังคงต้องพบกับความท้าทายเหมือนกับผู้ให้บริการสตรีมมิงคนอื่นๆ โดยเฉพาะกับการถ่ายทอดสดกีฬา โดยในปี 2017 สมาชิกของ DAZN ในประเทศแคนาดาได้พบเจอกับปัญหาทางเทคนิค เมื่อสมาชิกร้องเรียนว่าระบบสตรีมมิงของ DAZN ไม่สม่ำเสมอ การถ่ายทอดสดขาดช่วงในบางครั้ง และการถ่ายทอดสดล่าช้ากว่าระบบบรอดแคสติ้งทางโทรทัศน์

ซึ่ง DAZN ก็เดินหน้าแก้ปัญหานี้ด้วยการร่วมมือกับบริษัท Equinix บริษัทผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และรวบรวมข้อมูลซึ่งมีศูนย์ข้อมูล 200 แห่งใน 22 ประเทศจาก 5 ทวีปทั่วโลก เพื่อสร้างระบบการถ่ายทอดสดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Photo: DAZN

โดยสมการที่ทั้ง Equinix และ DAZN เดินหน้าแก้ไขคือการนำสัญญาถ่ายทอดสดจากสนามมาเพิ่มกราฟิกและเสียงนักพากย์ในแต่ละประเทศก่อนส่งตรงสู่แฟนกีฬาทั่วโลกให้ได้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังต้องเตรียมพร้อมระบบสำหรับการรองรับฐานแฟนกีฬาที่จะเข้าชมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเกิดการล่มขึ้นเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงจุดจบของแบรนด์ที่พวกเขาต้องการจะสร้างในฐานะผู้นำด้านการให้บริการในระบบสตรีมมิงกีฬา

“เราเดินหน้าหาทางออกใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่อาจไม่ได้รับการยอมรับจากวงการบรอดแคสติ้ง

“ความต้องการของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ พวกเขาไม่ต้องการจะผูกติดกับหน้าจอเดียวหรือสัญญาระยะยาวอีกต่อไป Netflix ได้สร้างตัวอย่างให้เห็นแล้ว เช่นเดียวกับ Perform ที่กำลังแสดงให้เห็นว่าหากคุณสามารถมอบคอนเทนต์ที่ถูกต้อง ผู้คนก็จะเข้ามาหาเอง” แมต จอร์ด ผู้บริหารระดับสูงของ Equinix ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายร่วมกับ Perform ในการให้บริการสตรีมมิงกีฬาที่มีประสิทธิภาพ

สิ่งที่น่าจับตามองต่อจากนี้ DAZN ผู้ถือลิขสิทธิ์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในครั้งนี้จะก้าวเข้ามาเจาะตลาดไทยในรูปแบบใด และเช่นเดียวกับ Facebook ที่ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-22 จะตัดสินใจขายสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้กับวงการบรอดแคสติ้งของไทยหรือไม่

หรือทั้งสองเจ้าของลิขสิทธิ์นี้จะตัดสินใจเดินหน้าบุกตลาดไทยด้วยการให้บริการผ่านระบบ Facebook Live และระบบสมาชิก OTT ของ DAZN เท่านั้น แต่สิ่งที่ DAZN ใช้ในการพิจารณาบุกตลาดในแต่ละประเทศก่อนหน้านี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญคืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและระบบบรอดแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แฟนกีฬาสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว

ทำให้เชื่อว่า DAZN อาจต้องหาพันธมิตรภายในประเทศไทยก่อนที่จะตัดสินใจบุกตลาดแฟนกีฬาอย่างเต็มที่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนแล้วคือรูปแบบการรับชมกีฬาที่ THE STANDARD ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในฤดูกาล 2019 ในวันนี้มันอาจจะเกิดเร็วกว่านั้นเสียแล้ว

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: