วันนี้ (11 เมษายน) สรุปความคืบหน้าสำคัญในปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่ม หลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจพบแสงไฟต้องสงสัยใต้ซากปรักหักพังในพื้นที่โซน B ซึ่งคาดว่าเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อาจติดอยู่ภายใน
ภคพล เมธีภักดี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เปิดเผยถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ว่า เวลาประมาณ 06.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่กำลังพักผ่อน ทีมกู้ภัยของมูลนิธิเพชรเกษมซึ่งรับผิดชอบพื้นที่โซน B ได้พยายามเจาะโพรงดินที่ดำเนินการมาหลายวันแต่ไม่สำเร็จ กระทั่งสามารถเจาะโพรงดังกล่าวได้ในช่วงเช้า
“โพรงนั้นค่อนข้างมืดและลึก ตอนแรกเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเหมือนคนเปิดโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดความสงสัย ก่อนที่เสียงจะเงียบไปและปรากฏเป็นแสงไฟจากด้านล่าง” ภคพลกล่าว
ทีมกู้ภัยจึงได้ประสานงานกับทีม USAR (Urban Search and Rescue) ที่มีอุปกรณ์พร้อม นำกล้องส่องลงไปในโพรง และพบแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือจริง
เจ้าหน้าที่ได้พยายามสอบถามไปยังด้านล่างว่า “เป็นคนที่รอดชีวิตใช่ไหม” แต่ไม่มีเสียงตอบรับ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ร้องขอว่า “ถ้ายังมีชีวิตอยู่หรือเป็นคนที่อยู่ข้างล่างให้ปิดไฟหน้าจอมือถือ” แสงไฟดังกล่าวก็ดับลง และเมื่อขอให้ “เปิดไฟหน้าจอมือถือ” แสงไฟก็ปรากฏขึ้นอีก 3-4 ครั้ง
ต่อมา ทีมกู้ภัยได้นำกล้องเรดาร์เข้าตรวจสอบ และพบภาพร่างมนุษย์ใกล้เคียงกันประมาณ 2-3 คน โดยร่างแรกอยู่ที่ความลึกประมาณ 1 เมตร และร่างที่สองอยู่ที่ความลึก 3 เมตรเศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพชรเกษมยืนยันว่าไม่พบกลิ่นเน่าผิดปกติ แต่ลักษณะที่ปรากฏนั้นคล้ายกับร่างมนุษย์จริง
แผนล่าสุดคือทีม USAR ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการของทุกหน่วย นำกล้อง 360 องศาหย่อนลงไปในโพรงดังกล่าว เพื่อสำรวจลักษณะทางกายภาพภายในโครงสร้าง และยืนยันจำนวนผู้ที่ติดอยู่
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญในการทำงานคือเหล็กเส้นจำนวนมากที่ขวางทางเข้า ทำให้โพรงที่มีความกว้างเพียง 50 เซนติเมตร ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเปิดปากโพรงให้กว้างขึ้น เพื่อเข้าถึงผู้ที่คาดว่าอยู่ที่ความลึก 1 เมตรให้เร็วที่สุด และตรวจสอบว่าเป็นผู้รอดชีวิตหรือไม่
จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว และนำมาสู่การถล่มของอาคาร สตง. จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต