สำหรับนักเตะที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ยังเป็นผู้เล่นเยาวชนจนก้าวขึ้นมาเป็นยอดดาวยิงเบอร์หนึ่งของประเทศและเป็น ‘สัญลักษณ์ของสโมสร’ ความผูกพันที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่จะตัดขาดจากกันได้โดยง่าย แต่คราวนี้ดูเหมือน แฮร์รี เคน จะตัดสินใจเด็ดขาดแล้วจริงๆ
ในวัย 27 ปีโดยไร้ความสำเร็จเป็นรูปธรรม ถึงเวลาที่เขาต้องไปจากท็อตแนม ฮอตสเปอร์เสียที
ข่าวสะเทือนวงการฟุตบอลอังกฤษเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำของวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อสื่อมวลชนเมืองผู้ดีเริ่มต้นรายงานข่าวเกี่ยวกับการตัดสินใจของกองหน้าเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมชาติอังกฤษที่ได้แจ้งต่อต้นสังกัดสเปอร์สว่าเขามีความต้องการที่จะย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้
โดยหวังว่า แดเนียล เลวี ประธานสโมสรจะรักษา ‘สัญญาสุภาพบุรุษ’ ที่เคยให้ไว้เมื่อฤดูร้อนของปีที่แล้ว
สัญญาสุภาพบุรุษระหว่างทั้งสองเกิดขึ้นในช่วงหลังสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเคนได้แจ้งความประสงค์ต่อเลวีว่าเขาต้องการที่จะย้ายออกจากทีมเพื่อไปอยู่กับสโมสรที่จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จ หลังจากที่ไม่เคยนำทีมคว้าแชมป์รายการใดได้เลย
ครั้งนั้นเลวีได้พยายามโน้มน้าวเคนโดยขอให้อยู่กับทีมต่อไปอีก 1 ปี เนื่องจากทีมเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่และอยากขอให้โอกาสกับ โชเซ มูรินโญ ทำทีมแบบเต็มๆ เป็นฤดูกาลแรก หลังจากที่ ‘The Special One’ เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ในเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูกาล อีกทั้งยังมีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างเลวร้ายไปหมด
ด้วยเห็นแก่สโมสรเคนจึงตกลงที่จะอยู่กับสเปอร์สอีก 1 ปี และหวังจะทำให้ดีที่สุด
ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกเคนค้นพบบทบาทใหม่ในฐานะของตัวทำเกมให้ทีม และจับคู่ประสานงานกับ ซนฮึงมิน ได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถนำสเปอร์สผงาดขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้ แต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ และทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อกองหน้าเบอร์หนึ่งอย่างเขาได้รับบาดเจ็บ
การเสียเคนไปทำให้สเปอร์สเริ่มผลงานตกลง ทิศทางเริ่มเปลี่ยน ทีมเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ แม้มูรินโญจะสามารถพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศลีกคัพได้สำเร็จแต่เลวี กลับตัดสินใจปลดเขาออกจากตำแหน่งก่อนหน้าที่เกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเริ่มได้ไม่ถึงสัปดาห์ โดยให้สตาฟฟ์ของสโมสรอย่าง ไรอัน เมสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของเคนรับบทแทน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเคนหวังว่าจะสามารถพาสเปอร์สคว้าแชมป์ให้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งหากคว้าแชมป์ลีกคัพได้ก็อาจจะทำให้ตัดสินใจอยู่ต่อได้
สุดท้ายพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และในเส้นทางของการลุ้นทำอันดับไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งถือเป็น ‘ฟางเส้นสุดท้ายของท้ายสุด’” ก็หมดความหวังลงไปอย่างเป็นทางการแล้ว
นั่นจึงนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดขาดของเคน โดยได้แจ้งต่อสโมสรซึ่งทางด้านผู้บริหารอย่าง รีเบกกา คาเพิลฮอร์น ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ, สตีฟ ฮิตเชน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และนำไปสู่กระบวนการเริ่มต้นหาตัวตายตัวแทน แม้ว่าการทดแทนกองหน้าที่มีผลงานระดับนี้จะเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยก็ตาม
เฉพาะในฤดูกาลนี้เคนทำไปแล้ว 32 ประตู (22 ในลีก) กับอีก 16 แอสซิสต์ (13 ในลีก) ไม่มีใครทำได้มากกว่าเขาในทั้งสองอย่างนี้ และผลงานตลอดการเล่นให้สเปอร์สนับถึงปัจจุบัน 334 นัดทำไปถึง 220 ประตู เรียกได้ว่าทุก 3 นัดเขาจะทำได้ 2 ประตูซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่สูงมาก
สิ่งที่น่าจับตามองหลังจากนี้คือเลวีจะรักษาคำพูดของตัวเองหรือไม่ เพราะเป็นที่รู้กันดีถึงกิตติศัพท์ในการเป็นนักเจรจาจอมโหด ซึ่งอดีตซูเปอร์สตาร์ของสเปอร์สอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แกเร็ธ เบล และ ลูกา โมดริช กว่าจะย้ายออกจากทีมได้สมความปรารถนาก็สู้จนแทบหมดแรง
เคนเองยังเหลือสัญญากับสเปอร์สอีกถึง 3 ปีเต็ม (หมดสัญญา 2024) ซึ่งสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรคือสิ่งที่ผูกมัดเขาเอาไว้กับสโมสรอย่างแท้จริง และจะเป็นสิ่งที่เลวีพยายามใช้ประโยชน์จากมันมากที่สุดอย่างแน่นอน
มีการประเมินกันว่าค่าตัวของเคนที่เลวีตั้งไว้ในใจอยู่ที่ราว 150 ล้านปอนด์ด้วยกัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีความเหมาะสมกับฝีเท้า แต่หากมองถึงอายุที่เข้าหลัก 27 ปีก็นับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงอยู่บ้าง และปัญหาใหญ่อีกอย่างคือโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของสโมสรทุกแห่ง
อย่างไรก็ดีมี 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่ไม่ปล่อยโอกาสในการได้ตัวกองหน้าเบอร์หนึ่งที่สามารถการันตีความสำเร็จได้ โดยที่เป็นช่วงที่ 3 สโมสรนี้ต้องการ ‘ศูนย์หน้า’ ที่สามารถฝากความหวังเอาไว้ได้พอดี
3 สโมสรดังกล่าวประกอบไปด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี ซึ่งเคนเองต้องการที่จะเล่นอยู่ในอังกฤษต่อไปมากกว่าจะเล่นต่างประเทศ แต่หากต้องเป็นทีมต่างประเทศเขาสนใจที่จะย้ายไปเล่นในลาลีกา สเปน ซึ่งเข้าใจว่ามีบาร์เซโลนาที่ติดต่อมาอีกทีม
หากมีสโมสรใดที่สู้ราคาดังกล่าว เป็นไปได้ที่เลวีจะยอมรับข้อเสนอ แต่ตามประวัติศาสตร์แล้วคงจะไม่มีการเปิดประตูและโบกมือลาแบบง่ายๆ และในตลาดเองก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กันแถมยังอายุน้อยกว่าอย่าง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทุกทีมจับตามองไม่คลาดสายตา
เรียกว่าเคนเองก็ต้องลุ้นเหมือนกันว่าจะสามารถย้ายทีมได้ไหม และจะได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรใด
แต่สิ่งเดียวที่เขาเชื่อคือเขาคงไม่มีวันประสบความสำเร็จกับสเปอร์สได้ และนั่นทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการไปจากสโมสรที่เขารักและอยู่ด้วยมาตลอดชีวิต
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: