ตั้งแต่ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน ประเทศไทยก็มีลมเย็นมาปะทะกายให้สาสมกับฤดูหนาว โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่หาอากาศหนาวได้ยากเต็มทน ก็ยังมีลมเย็นๆ พอชุ่มชื่นหัวใจ พออากาศเริ่มเย็น หลายคนก็เริ่มรู้สึก ‘ไม่อยากอาบน้ำ’ ขึ้นมาเสียดื้อๆ เรารู้หรอกว่ามีคนลักไก่ไม่อาบน้ำอยู่เพียบ แต่ทำแล้วก็ยังมีตราบาปนิดๆ THE STANDARD ขอบอกเลยว่า คุณไม่ต้องรู้สึกผิดไป เพราะผลทางวิทยาศาสตร์บอกว่า ‘การอาบน้ำบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดี’
กฎการอาบน้ำ
ไม่มีกฎตายตัวว่ามนุษย์เราต้องอาบน้ำกี่ครั้งกี่หนในหนึ่งสัปดาห์จึงจะดีที่สุด Euromonitor International บริษัทวิจัยการตลาดจากเกาะอังกฤษเผยว่า คนอินเดีย สหรัฐฯ สเปน และเม็กซิโก ก็อาบน้ำวันละครั้งเช่นกัน แต่จะมากขึ้นเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวันที่เพิ่มเข้ามา เช่น การออกกำลังกาย หรือสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นก็อาบน้ำเฉลี่ยวันละครั้ง คือ ช่วงเย็นหลังจากทำงานหนักและซักแห้ง (ไม่อาบน้ำ) เกือบทุกวันก่อนไปทำงาน คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิยมอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แต่ถ้าในประเทศใกล้แถบขั้วโลก การอาบน้ำก็จะลดน้อยลง
แล้วเราควรอาบน้ำวันละกี่ครั้งล่ะ?
ความจริงคือมนุษย์ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำมากนัก ดร. เคซีย์ คาร์ลอส (Casey Carlos) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโรคผิวหนัง จากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย (University of California San Diego School of Medicine) บอกว่า การอาบน้ำทุกวันและอาบครั้งละนานๆ ไม่มีผลดีต่อร่างกายเลย แถมการฟอกสบู่ทั่วตัวก็ไม่ดีกับผิวหนังด้วย ทั้งยังบอกอีกว่าผิวหนังของเราสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อยู่แล้ว ส่วนสบู่ที่เราใช้เพื่อให้ผิวสะอาดนั้น แท้จริงแล้วเป็นตัวทำลายน้ำมันในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเราแห้งและนำไปสู่โรคผิวหนัง! (ร้องอ้าวววววดังมาก!)
ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อ ดร. โจชัว ไซช์เนอร์ (Joshua Zeichner) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังในนิวยอร์กออกมายืนยันอีกเสียงว่า มนุษย์อาบน้ำเพราะสังคมและวัฒนธรรมบอกให้อาบมากกว่านิสัยรักสะอาด และการอาบน้ำทุกวันไม่ได้ทำให้ร่างกายสะอาดมากขึ้นเท่าไร (ตึ่ง! สรุปๆ ที่อาบๆ ไปไม่สะอาดขึ้นเลยหรือเนี่ย)
นอกจากนั้น เดวิด เลฟเฟล (David Leffell) ผู้เขียนหนังสือ ‘Total Skin: The Definitive Guide to Whole Skin Care for Life’ และหัวหน้าแผนกศัลยกรรมผิวหนัง ที่สถาบันแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล (Yale School of Medicine) ยังกล่าวสมทบอีกว่า “ความเสียหายที่เกิดจากการอาบน้ำไม่ได้หยุดลงเมื่อคุณปิดน้ำ”
เลฟเฟลอธิบายว่า “เมื่อคุณปิดน้ำและเริ่มเช็ดตัว ชั้นผิวของคุณก็เริ่มถูกทำร้าย และหลังจากที่ก้าวออกจากห้องน้ำ ความชื้นในชั้นผิวก็จะระเหยสู่อากาศอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหน้าหนาวและการอาบด้วยน้ำอุ่น ฉะนั้นการอาบน้ำบ่อยๆ นานๆ ไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็นๆ” (ทำไมเราเห็นรอยยิ้มจากพวกเธอ)
น้อยและเร็วดีที่สุด
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์คนใดออกมาห้ามมนุษย์รักสะอาดที่อาบน้ำบ่อย เพียงแต่แนะนำให้พอเหมาะพอควรตามสภาพอากาศและกิจกรรม ถ้าไปออกกำลังกายทุกวันหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีก็ควรอาบน้ำทุกวัน แต่สำหรับคนธรรมดาอาบน้ำวันเว้นวันหรือ 3 วัน 1 ครั้งก็พอแล้ว
โดยเลฟเฟลแนะนำเคล็ดลับการอาบน้ำไว้ง่ายๆ 5 ข้อ
- อย่าให้น้ำร้อนเกิน
- อย่าอาบนานเกิน 30 นาที
- ร่างกายเราสามารถอาบน้ำให้สะอาดได้ภายใน 3 นาที โดยให้เน้นไปยังบริเวณรักแร้และขาหนีบมากกว่าส่วนอื่นๆ เพื่อลดกลิ่นของร่างกาย
- อย่าขัดถูรุนแรง และลูบไล้ก็พอแล้ว
- อย่าลืมทาโลชันบางๆ เพื่อกันความชุ่มชื่นออกจากผิว
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับมนุษย์ผู้ขี้เกียจอาบน้ำทั้งหลาย ถ้าคุณรู้สึกเหนอะหนะ เริ่มมีกลิ่นตุๆ หรือร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นควัน อย่างไรเสีย การอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ขจัดเชื้อโรคและมลภาวะเหล่านี้ย่อมดีกว่าซักแห้งแน่นอน
อ้างอิง: