วันนี้ (1 พฤษภาคม) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าคดี แอม-สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าชิงทรัพย์ ก้อย-ศิริพร ขันวงษ์ เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่า วันนี้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งคืบหน้าไปกว่า 80% คงเหลือเพียงผลตรวจหลักฐานบางอย่าง
อย่างไรก็ตามในส่วนคดีก้อย จากหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ผู้ก่อเหตุมีแค่แอมเพียงคนเดียว ยังไม่พบหลักฐานผู้อื่นร่วมกระทำผิด
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำพยานทั้ง 5 คน วานนี้ (30 เมษายน) ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ชุดคลี่คลายคดีสามารถมองเห็นทิศทางและรูปแบบการกระทำผิดมากขึ้นกว่าเดิม
พ.ต.อ. เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการออกหมายจับคดีอื่นๆ ทราบว่าทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางตำรวจกองปราบและตำรวจพื้นที่มีการประสานข้อมูลและพยานหลักฐานร่วมกันมาโดยตลอด จนทำให้คดีรุดหน้าไปมาก
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า นายตำรวจตำแหน่งรองผู้กำกับการ อดีตสามีแอม มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดากันไปเอง เพราะจากข้อมูลและพยานหลักฐานในตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลการร่วมกระทำผิด
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีปรากฏคลิปอดีตสามีแอมพยายามเจรจากับผู้เสียหายที่ถูกแอมโกงเงินหวยทิพย์ จนมีการตั้งข้อสงสัยจากสังคมว่า อดีตสามีนั้นรับรู้ถึงพฤติกรรมการกระทำผิดที่ผ่านมาของแอม ยังคงปกป้องและให้การช่วยเหลือหรือไม่นั้น เพราะเกรงจะส่งผลต่อรูปคดี
ในส่วนนี้ พ.ต.อ. เอนก กล่าวว่า พอรับทราบข้อมูลอยู่บ้าง แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบให้แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ขอให้สังคมมั่นใจว่าไม่ว่าอดีตสามีแอมจะเป็นใคร ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือทางคดีนี้ได้ เพราะตำรวจกองปราบยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นที่ตั้ง