×

ในวันที่ฤดูร้อนหยุดเคลื่อนไหว และอัลบั้ม ‘Freeze’ ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก

31.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • วง Summer Stop ใช้เวลา 5 ปีตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าสู่ค่าย Smallroom จนกลายเป็นอัลบั้ม Freeze ที่มี 15 เพลง เพื่อตอบแทนแฟนเพลงที่ให้กำลังใจและติดตามพวกเขามาตั้งแต่วันแรก
  • ในวันคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Freeze Party พวกเขาเพิ่งปล่อยเพลงทั้งหมดลงในยูทูบก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน แต่แฟนเพลงร้องตามกันได้ทุกคำ ในขณะนักร้องนำอย่างเอยยังจำเนื้อเพลงได้ไม่ครบ
  • เพลง ในหน้าต่าง, เพื่อนใจ, ดวงจันทร์ และ เงื่อนไข คือ 4 เพลงที่พวกเขาอยากแนะนำให้ฟังมากที่สุด

     ปลายปี 2012 ค่าย Smallroom ได้เปิดห้องต้อนรับ 4 หนุ่มหยุดหน้าร้อน Summer Stop เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ พวกเขาค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์และผลงานเพลงอย่างอดทน จนเวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี ความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จ กลายเป็นอัลบั้ม Freeze ที่อัดแน่นไปด้วย 15 เพลงคุณภาพที่พวกเขาตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมาจริงๆ

     และแล้วความฝันของพวกเขาก็นำพาเสียงเพลงไปพบกับแฟนคลับกว่า 200 คนในงาน Freeze Party คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม จนกลายเป็นค่ำคืนที่อบอุ่นมากกว่าทุกๆ คืนที่เคยผ่านมา

           

 

Freeze Party ผลตอบแทนแห่งความพยายามตลอด 5 ปี

     โดม: ประทับใจมาก ตอนแรกเราไม่มั่นใจว่าคนจะมาเยอะหรือเปล่า แต่คนมากันเยอะจนบัตรไม่พอขาย ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเราทำงานหนักมาหลายปี พอเห็นภาพวันนั้นแล้วหายเหนื่อยเหมือนกันนะ

     เอย: เราเพิ่งลงเพลงทั้งหมดในยูทูบไม่กี่วันก่อนเริ่มงาน บางเพลงผมยังจำเนื้อไม่ได้เลย (หัวเราะ) บางท่อนร้องผิด แต่แฟนเพลงข้างล่างร้องได้หมดเลย เขาร้องได้ทุกคำจริงๆ

     แมว: มันมีโมเมนต์ที่กลับมาทำให้เราคิดนะ จริงๆ วันนั้นควรเป็นงานที่พวกเราตั้งใจทำอะไรบางอย่างให้พวกเขา เตรียมตัวกันอย่างดีมาก พร็อพ เพลง การแจกของ แต่พอไปถึงมันช็อตที่อยู่ดีๆ แฟนเพลงชูหัวใจรูป Summer Stop พรึบขึ้นมา โดยที่พวกเราไม่รู้มาก่อนเลย มันกลายเป็นพวกเขาที่มอบความรู้สึกดีๆ มาให้พวกเราแทน

     เอิง: อยากขอบคุณพวกเขาด้วย โดยเฉพาะแฟนเพลงที่ติดตามพวกเรามาตั้งแต่แรก บางงานเล่นที่ไกลๆ เขายังตามมาเชียร์ พวกเราพูดมาตั้งแต่เข้าค่าย Smallroom ปลายปี 2012 บอกว่าปี 2013 จะออกอัลบั้ม พอ 2013 ก็บอกว่า 2014 จะได้ฟัง แล้วไล่มาเรื่อยๆ จนถึง 2017 เวลามันนานเหมือนกันนะ แต่พวกเขายังรอพวกเราอยู่ บอกเลยว่าพวกเขาคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเรายังทำดนตรีกันอยู่ เพราะถ้าพวกเขายังไม่ทิ้งพวกเรา แล้วพวกเราจะทิ้งเขาได้ยังไง มันเป็นกำลังใจที่สำคัญมาก

 

 

จุดเริ่มต้นทุกสิ่งอย่าง ณ ‘เอิง-เอย’ สตูดิโอ

     เอิง: พวกเราพยายามทำห้องเก็บเสียงแบบง่ายๆ เอาไว้เป็นสตูดิโอในการทำงานเพลงที่บ้าน เริ่มทำตั้งแต่ 8 ปีก่อน สมัยที่ผมกับเอยยังทำอีกวงหนึ่งอยู่ ก่อนจะมาทำ Summer Stop ประมาณ 6 ปีที่แล้ว ทุกอย่างทำเองหมดเลย หาไม้อัดมาปูพื้น ทำเพดาน ทำกำแพงเก็บเสียง แต่ด้วยความที่ทำทุกอย่างแบบง่ายๆ พออยู่ไปสักพักกาวบนเพดานหลุด ต้องเสียขาไมค์หนึ่งตัวเพื่อไปดันเอาไว้ ห้องก็เล็ก พื้นยวบ จะวางคีย์บอร์ด วางกลอง ก็ต้องวางเอียงๆ เพราะพื้นมันเบี้ยวไปหมด ตอนแรกพยายามเรียกว่าสตูดิโอนะ แต่ตอนนี้เริ่มกระดากปากแล้ว (หัวเราะ)

 

 

     โดม: ข้อดีของห้องนี้คือง่วงกับฝุ่นเยอะ (หัวเราะ) คือความสบายที่พวกเราได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ใครไปเห็นอะไรมาก็เสนอไอเดียได้เต็มที่ ไม่เกร็งเหมือนเวลาอยู่ที่อื่น มีคอมฯ มีเครื่องดนตรีแล้วจะคิด จะทำอะไรได้หมด สบายถึงขนาดเคยเอาเตียง 2 ชั้นเข้าไปวาง คิดจะใช้ชีวิตในนั้นเลย แต่ไม่เวิร์ก เพราะทุกคนจะแย่งกันนอนบนเตียงแล้วไม่ได้ทำอะไร เลยต้องยกออกมา

 

หนึ่งเพลงที่ชอบที่สุด

     โดม: ในหน้าต่าง เป็นเพลงที่ขึ้นมาแล้วเพราะเลยตั้งแต่อินโทร ตั้งแต่โน้ตแรก ไม่ต้องมีเสียงร้องเลยนะ ผมอินกับเพลงนี้ตั้งแต่เป็นเดโม ยังไม่ได้ทำอะเรนจ์เมนต์ แล้วแค่หลับตาฟัง ผมเห็นภาพหิมะโปรยมาเลย เป็นช่วงคริสต์มาสตอนเย็นๆ อากาศหนาวๆ

 

https://www.youtube.com/watch?v=afLngjd43GI

 

 

     แมว: เพลง เพื่อนใจ ผมค่อนข้างเป็นคนสนใจรายละเอียดดนตรี ไม่ใช่ไม่สนใจเนื้อร้องกับทำนองนะ แต่จะเริ่มฟังเพลงจากดนตรีก่อน เพราะเวลาทำงาน ผมต้องทำเกี่ยวกับดนตรีที่ต้องดึงพวกนี้มาใช้เยอะ แล้วผมรู้สึกสนุกกับการทำเพลงนี้ ไหลลื่นมาก ไม่เหมือนเพลงอื่นที่ต้องเค้นนิดนึง แต่เพลงนี้สนุก ทำได้เรื่อยๆ คิดว่ามันค่อนข้างใหม่นะสำหรับเพลงที่มีเนื้อร้องภาษาไทย อยากชวนให้ฟังเพลงนี้ดู

 

 

     เอิง: เพลง ดวงจันทร์ ผมชอบตั้งแต่เดโมแรก ตอนแรกอยากให้เป็นอะคูสติก มีกีตาร์โปร่งตัวเดียวด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเราอะเรนจ์กันหลายเวอร์ชันมาก น่าจะเป็นเพลงที่ทำงานกันเข้มข้นที่สุด บางทีทำไป 4-5 เวอร์ชันก็ไม่ชอบ กลับไปกีตาร์โปร่งอย่างเดียว แล้วกลับมาใส่เครื่องดนตรีอีก ปรับไปเรื่อยๆ จนได้เวอร์ชันสุดท้ายที่ได้ฟัง คิดว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเราจริงๆ จำได้เลย เวลาทำเดโมเสร็จตั้งชื่อจาก Moon Demo 1, Moon Demo 2 3 4 ช่วงหลังๆ เริ่มหยาบขึ้นเรื่อยๆ จนผมจำตัวไฟนอลเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่ที่จำได้แม่นคือมีคำว่า F…ck Moon Demo อะไรสักอย่างนี่แหละ เข้มข้นจริงๆ (หัวเราะ)

 

     

 

     เอย: เพลง เงื่อนไข เพราะว่ามันง่ายดี เป็นเพลงที่ง่ายสุดในอัลบั้ม พื้นฐานเป็นเพลงรัก 4 คอร์ด ผมอยากให้วงมีเพลงแบบนี้มานานแล้ว ถ้าฝึกเล่นกีตาร์หรือเครื่องดนตรี เล่น 4 คอร์ดนี้แล้วคุณร้องไปได้ทั้งเพลงเลย แล้วผมรู้สึกถึงความสร้างสรรค์ของเมโลดี้ ก่อนหน้านี้ชอบมีคนทักว่าผมร้องเพลงเสียงเอื้อนบ่อย เห็นคนว่าเยอะ เพลงนี้เลยประชด เอื้อนมันทุกท้ายประโยคให้หมดเลย (หัวเราะ) กลายเป็นว่าชอบมาก คิดว่าคนน่าจะจำได้ เมโลดี้มีความซับซ้อน แต่ดนตรี 4 คอร์ดง่ายๆ

 

 

 

สิ่งเก่าที่อยาก Stop และสิ่งใหม่ที่อยาก Start

     เอย: อยากหยุดอายุไว้แค่นี้ คิดว่าทุกอย่างในวัยนี้กำลังพอเหมาะกับการทำดนตรี มีประสบการณ์มากขึ้น แต่ยังมีความสนุก อยากเริ่มทำอัลบั้มใหม่ เพราะรู้สึกตื่นเต้น อัลบั้มนี้คือที่สุดของ Summer Stop แต่ยังเชื่อว่าพวกเราไปได้สุดกว่านี้อีก

     เอิง: อยากหยุดอาการบาดเจ็บเอาไว้ หลังจากข้อเท้าพลิกมาประมาณหนึ่งปี ตอนนี้ผมวิ่งไม่ได้นะ เวลาเดินเยอะจะเริ่มติดๆ อยากรักษาให้หาย จะได้ไปเที่ยวมากขึ้น ไปเตะบอลกับเพื่อนได้

     ผมมีความคิดหลายอย่างที่อยากทำหลังจากทำอัลบั้มเสร็จ อยากดูคอนเสิร์ตให้มากขึ้น เมื่อก่อนตอนไม่มีเงิน เรามีโอกาสดูน้อย พอตอนนี้เริ่มมีก็อยากทำให้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ อีกอย่างคืออยากเขียนหนังสือ แต่ยังไม่ได้เริ่มทำสักที

     แมว: อยากหยุดความกลัวของตัวเอง ผมเป็นชอบกลัวและเกรงใจเวลามีคนมาชวนให้ทำโน่นทำนี่ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะกลัวไปทำไม โดยเฉพาะโอกาสหลายๆ ครั้ง เช่น พี่จีน (กษิดิศ สำเนียง) เคยชวนให้ไปเล่นแบ็กอัพให้ โอกาสนั้นทำให้ผมได้ไปเล่นกับวง Futon ตอนเขามารียูเนียนกัน วงที่เราได้แต่ฟังเพลงเขามานาน ไม่คิดว่าจะเฉียดไปใกล้ได้ด้วยซ้ำ ถ้ามัวกลัวตั้งแต่แรก โอกาสอื่นๆ จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย เพราะฉะนั้นมีหลายโอกาสที่ผมพลาดไปเพราะความกลัว คิดว่าถ้าหยุดได้คงมีโอกาสอะไรดีๆ เข้ามาอีกเยอะ

     อยากเริ่มทำในสิ่งที่รู้สึกเครซี่กับมันมากๆ ผมเป็นคนที่ตอบตัวเองได้ไม่ชัดว่าอะไรคือสิ่งที่เราบ้าจริงๆ บางคนชอบถ่ายรูป ชอบแต่งรถ แล้วเอาตัวเองไปอยู่ในนั้นจนเป็นกูรู จริงๆ ตอนนี้กำลังเริ่มอยู่ คือบ้าพวกโปรแกรมเกี่ยวกับเพลง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่แล้ว แต่อยากออกไปข้างนอกบ้าง อยากหาเรื่องนั้นของตัวเองให้เจอ

     โดม: อยากเรียนถ่ายภาพกับทำกราฟิก ก่อนหน้านี้ตอนทำวงใหม่ๆ ยังไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ต้องหารายได้อื่นเสริม ผมเคยคิดว่าอยากถ่ายภาพ ลงทุนไปซื้อกล้องมา พอใช้งานได้ประมาณปีนึงก็ลืมเอาไว้ในรถแท็กซี่ ความฝันการเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ก็จบลงตั้งแต่ตอนนั้น ผมอยากกลับไปเรียนอีกครั้งถ้ามีโอกาส

     สิ่งที่อยากหยุดคือ อยากหยุดอายุของพ่อแม่เอาไว้เท่านี้ครับ จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้อีกเยอะๆ

FYI
  • จริงๆ อัลบั้ม Freeze มีเดโมมากถึง 30 เพลง แต่กลัวว่าจะเป็นภาระสำหรับคนฟังมากเกินไป ทั้ง 4 คนต้องใช้วิธีโหวตกันว่าเพลงไหนจะได้อยู่ในอัลบั้มต่อไป
  • ชื่ออัลบั้ม Freeze สรุปกันได้ในวันสุดท้ายที่ต้องโปรโมตว่าพวกเขามีอัลบั้มใหม่ หลังจากคิดกันอยู่นาน มีน้องพีอาร์ในค่ายมองไปที่แทร็กลิสต์เพลงของวงที่ติดอยู่บนบอร์ดของ Smallroom เห็นว่าเพลง เราเคยรักกัน มีชื่อภาษาอังกฤษคือ Freeze แล้วถามว่าทำไมไม่ใช้เพลงนี้ ซึ่งตรงกับเมโลดี้เย็นๆ หนาวๆ เหมือนชื่อวง Summer Stop พอดี  
  • ชื่อที่อื่นที่ส่งประกวดคือ Journey To Moon ที่เอาเพลงแรกกับเพลงสุดท้ายมารวมกัน แต่ถูกตัด เพราะชื่อไปใกล้เคียงกับอัลบั้ม The Journey Without Maps ของเล็ก Greasy Café, Winter Start ที่คล้องกับ Summer Stop แต่วงคิดว่าอาจจะติดเล่นเกินไป และ A Cold Piece of Work แปลว่า คนเข้าใจยาก ที่โดมเป็นคนเสนอ และเป็นชื่อเดียวที่ทุกคนจะเงียบทุกครั้งที่โดมพยายามพูดชื่อนี้ขึ้นมา
  • นอกจากวง Summer Stop แมวกับเอิง รับทำเพลงเบื้องหลังและเพลงประกอบโฆษณากับค่าย Smallroom เอิงเคยทำสื่อการสอนภาษาไทยสำหรับเด็กด้วย ส่วนเอยมีแบรนด์สายสะพายกล้องชื่อ EH Camwearing และโดมเป็นนักบำบัดเด็กพิเศษและหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านเนื้อย่างชื่อ War Grill Yakiniku

สมาชิก: (จากซ้าย) โดม-ธิติภัทร รวมทรัพย์ (กลอง), แมว-วัฒน์สุ สิทธิปิยะสกุล (ซินธิไซเซอร์), เอย-ธนพรรษ์ ยาท้วม (ร้องนำ, กีตาร์) และเอิง-ดนุพรรษ์ ยาท้วม (ร้องนำ, กีตาร์)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X