ในงาน Cryptomind Investment Forum 2022 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด (Cryptomind) ได้เปิดเผยถึงมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2565 รวมถึงอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบัน
พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว Education Lead ของ Cryptomind Advisory เปิดเผยว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก จากความไม่แน่นอนในหลายปัจจัยทำให้นักลงทุนดึงเงินสดออกมาพร้อมๆ กัน เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนจะกลับเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่พิจารณาไว้
“ปีนี้เงินเฟ้อสูงมากจริงๆ ทำให้นักลงทุนจะไม่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ทำให้เราประเมินว่าภาพในปีนี้ของสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นบวกอยู่เล็กน้อย”
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าคริปโตเคอร์เรนซียังเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างกรณีของ Bitcoin ที่ปัจจุบันมีมูลค่าราว 1 ใน 10 ของทองคำ
“ตามคอนเซปต์แล้ว ถ้าเกิดเงินเฟ้อและวิกฤตในตลาด เงินลงทุนควรจะถูกเทมา Bitcoin แต่ในความเป็นจริงยังไม่ใช่ ทั้งนี้ สิ่งที่ต่างออกไปคือ ด้วยมาร์เก็ตแคปที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ Bitcoin ไม่ได้ลงหนัก 80% เหมือนกับในอดีต ขณะที่เหรียญ Altcoin ต่างๆ หากเป็นในอดีตจะต้องลงหนักกว่านี้มาก เพราะในอดีตเป็นธุรกิจที่ยังไม่มีอะไร แต่ตอนนี้ภาพค่อยๆ ดีขึ้น”
ทั้งนี้ การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจใหญ่ๆ หลายแห่งที่เริ่มใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรองของบริษัท ขณะที่นักลงทุนสถาบันก็เข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น อย่างกรณีของ Bitcoin ซึ่งถือครองโดยบัญชีที่มีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากกว่า 4,000 บัญชี มาเป็นกว่า 9,000 บัญชีเมื่อปีก่อน ขณะที่มูลค่าตลาดของ DeFi ก็เติบโตจนขึ้นมาแตะระดับ 3 แสนล้านดอลลาร์ ส่วน NFT ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในระยะหลัง ปัจจุบันยังเป็นตลาดของนักลงทุน High Net-worth เป็นหลัก
สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้คือเรื่องของเงินเฟ้อ และการถอนสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างในปี 2561-2562 ซึ่งเป็นตลาดหมีของสินทรัพย์ดิจิทัล ในเวลานั้น Fed ดึงเงินออกจากระบบไปเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งปีนี้จะมีความไม่แน่นอนในเรื่องนี้เข้ามาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยเม็ดเงินอัดฉีดที่ Fed ใส่เข้ามาในระบบราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ จากมาตรการ QE ทำให้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นแน่นอนในปีนี้ และการจะดึงเงินออกจากระบบทั้งหมดอาจจะไม่ง่ายนัก
“โดยสรุปแล้ว ตลาดปีนี้อาจจะไม่เป็น Bull Market แต่เชื่อว่าจะไม่เป็น Bear Market แน่ๆ ตลาดอาจจะบวกเล็กน้อย ขณะที่ราคา Bitcoin คาดว่าจะแกว่งในกรอบ 30,000-80,000 ดอลลาร์”
ด้าน กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital ซึ่งเป็นบริษัทจัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้คริปโตมายด์กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ภายใต้การจัดการของคริปโตมายด์มากกว่า 1,200 ล้านบาท
ซึ่งระหว่างวันที่ 26-31 มกราคม 2565 พร้อมเสนอขายกลยุทธ์การลงทุนภายใต้ธีมหลักสองส่วนคือ M-Metaverse และ M-Blockchain โดยจะเริ่มบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน M-Blockchain จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นกระดูกสันหลังของสินทรัพย์ดิจิทัล อย่าง Blockchain Infrastructure และ Smart Contract Platform ทำให้การใช้งานและทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็นการโอน การระดมทุน หรือการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว มีต้นทุนที่ต่ำลง และสิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือความปลอดภัยของผู้ใช้งาน การทำธุรกรรมต่างๆ สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและไร้ตัวกลางด้วย
โดยพอร์ตลงทุนลอง M-Blockchain ในเบื้องต้นประกอบไปด้วย 7 สินทรัพย์ ได้แก่ ETH (25%), ALGO (12.5%), ATOM (12.5%), AVAX (12.5%), LUNA (12.5%), MATIC (12.5%) และ SOL (12.5%)
ด้านกลยุทธ์การลงทุน M-Metaverse จะเป็นทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่ให้นักลงทุนเสมือนได้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยแกนหลักสำคัญของ Metaverse ไม่ว่าจะเป็นใน Ecosystem ที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมไปถึง Game, NFT และ Platform Metaverse โดยพอร์ตลงทุนในเบื้องต้นจะประกอบไปด้วย SAND 44%, MANA 28% และ ENJ 28%
