เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 มกราคม) องค์กรระหว่างประเทศดังอย่าง World Economic Forum (WEF) เผยผ่านเว็บไซต์ขององค์กรว่า ทาง WEF มีความเชื่อว่า เทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ และ ‘คริปโต’ จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่ หรือ Modern Economy
ทั้งยังได้กล่าวถึงมุมมองของคริปโตว่า ณ ขณะนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีคริปโตกราฟีและบล็อกเชนมาใช้ต่อภาคอุตสาหกรรมการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นแล้ว
ในรายงานดังกล่าวนั้นได้เผยว่า สถาบันการเงินอย่าง J.P. Morgan ได้นำระบบบล็อกเชนหรือคริปโตไปใช้เป็นรายแรกๆ ของโลก และในตอนนี้ สถาบันการเงินอื่นๆ ก็ได้มีการนำคริปโตไปใช้เพิ่มขึ้นตามมา
นอกจากนี้ WEF ได้กล่าวว่า แม้คำว่า ‘คริปโต’ จะเป็นคำที่ไม่ได้เป็นมิตรเท่าไรนัก และดูเหมือนจะเป็นคำที่ไม่ดีด้วยซ้ำ แต่ด้วยความโปร่งใสของระบบบล็อกเชน มันมีข้อดีอย่างมากที่ทำให้อาชญากรไม่สามารถหลบหนีได้
ดังที่ได้มีรายงานในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า คู่รักแฮกเกอร์ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งถูกตรวจสอบได้ในภายหลังว่ามี Bitcoin จำนวน 94,000 BTC มูลค่าราว 4.1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งแฮ็กมาจาก Bitfinex แพลตฟอร์มคริปโต ตั้งแต่ปี 2016
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ทาง WEF ก็กล่าวว่า ปี 2022 ก็ถือได้ว่าเป็นปีที่ย่ำแย่สำหรับคริปโตพอสมควร เนื่องจากเงินมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 75 ล้านล้านบาท ได้หายไปจากตลาดคริปโต ซึ่งลดลงจากมูลค่าตลาดรวมที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 8 แสนล้านดอลลาร์เท่านั้นเอง
ในรายงานของ WEF ยังมองว่า ด้วยการล่มสลายของ FTX แพลตฟอร์มคริปโตที่เคยติดอันดับต้นๆ ของโลกนั้น ได้ทำลายความเชื่อมั่นของคนในวงการไปพอสมควร รวมไปถึงการทำให้ฝ่ายกำกับดูแลเข้ามามีส่วนในการกำกับดูแลเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ WEF ยังเปรียบเทียบปี 2022 ของคริปโตเข้ากับปีวิกฤตฟองสบู่ดอทคอมในปี 2000 อีกเช่นกันว่า ในท้ายที่สุดบริษัทที่ล้มหายตายจากก็จะส่งต่อเทคโนโลยีและธุรกิจไปยังบริษัทที่เหลือรอดอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง: