เมื่อเวลาผ่านไป กระแสคริปโตเคอร์เรนซีก็ย้ายจากเหรียญมาเป็นของสะสมจนมาสู่การเล่นเกม ซึ่งก็มีเกมคริปโตที่ได้รับความนิยมหลายตัว เช่น The Sandbox, Axie Infinity ฯลฯ แต่นอกจากเกมที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ในตอนนี้แล้ว คอเกมจำนวนไม่น้อยมักบ่นอุบว่าเกมคริปโตส่วนใหญ่ยังไม่ได้มาตรฐานและไม่น่าเล่นเอาเสียเลย แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เราจะพาไปค้นหาคำตอบนี้กัน
1. พัฒนาเร็วเกิน
การมาของเกมคริปโตเป็นกระแสที่ทำให้เหล่าผู้พัฒนารู้สึกว่าต้องรีบคว้าโอกาส การสร้างเกมขึ้นมาใหม่จึงมีกระบวนการที่เร่งรีบและตัดขั้นตอนเพื่อให้เกมเสร็จเร็วที่สุด โดยไม่มีการสนใจเรื่องของคุณภาพ ความสวยงาม เนื้อเรื่อง หรือใดๆ เพื่อให้ผู้เล่นประทับใจ การสร้างเกมปกตินั้นใช้เวลานานหลายปี แต่เกมคริปโตเหล่านี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ ตัวเกมนั้นไม่ได้มาจากบริษัทที่ทำเกมจริงจัง แต่มาจากโปรแกรมเมอร์เพียงหนึ่งคนกับทีมเล็กๆ และทุนอันน้อยนิด คุณภาพจึงต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
2. กลุ่มเป้าหมายต่างกัน
เกมเมอร์เล่นเกมเพื่อความสนุก แต่คนที่เล่นเกมคริปโตคือนักลงทุนที่แสวงหาผลกำไร ฉะนั้นเราอาจพูดได้ว่าเกมคริปโตไม่ใช่เกมที่แท้จริงสำหรับความบันเทิง แต่เป็นการลงทุนหรือการพนันในอีกรูปแบบหนึ่ง การออกแบบของเกมคริปโตจึงเน้นไปที่การลงทุนและกำไรของผู้เล่น หรือ ‘Play-to-Earn’ นั่นเอง ทำให้ในหลายเกม การเล่นเป็นแค่การคลิกหนึ่งครั้งโดยไม่ต้องใช้ทักษะหรือการเรียนรู้ใดๆ จากการเล่นเกม จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘Click-to-Earn’
3. ยังไม่ถึงเวลา
แต่ก็ยังมีความเห็นว่าจริงๆ แล้วมันอาจยังไม่ถึงเวลา เพราะเกมที่ดีย่อมต้องใช้ทุนและเวลา แค่ต้องรอให้บริษัทเกมใหญ่ๆ อย่าง Ubisoft หรือ Konami ทำเกมคริปโตที่ดีให้ออกมาเสร็จสมบูรณ์ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีและยกมาตรฐานเกมอื่นๆ ตอนนี้หลายอย่างอาจเป็นเพียงคอนเซ็ปต์วาดฝัน แต่ในอนาคต ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้เกมคริปโตสุดยอดมากแน่ๆ ผู้เล่นจะเป็นเจ้าของสกินได้อย่างแท้จริง เหล่าเกมเมอร์จะเปลี่ยนมาเล่นเกม NFT มากขึ้น ขอแค่ใจเย็นๆ และรอต่อไป
อนาคตของเกมคริปโตจะเป็นอย่างไร เกมที่ไม่ได้มาตรฐานจะหายไปไหม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกมหรือไม่ เราอาจได้รู้คำตอบกันภายในปีนี้ว่าจริงๆ แล้วมันคือการทำกำไรระยะสั้นหรือนวัตกรรมใหม่ระยะยาวกันแน่
อ้างอิง: