นักวิเคราะห์เผยกระแสความนิยมลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีและหุ้น Tesla คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติทยอยทิ้งหุ้นเวียดนามอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าดัชนี VNI ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์จะปรับเพิ่มขึ้นถึง 33% ในปีนี้ ซึ่งอัตราเติบโตสูงที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นอาเซียน
ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหุ้นเวียดนามรวมกันเป็นมูลค่ากว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่ Korea Securities Depository ระบุว่า นักลงทุนเกาหลีใต้ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนในหุ้นเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนราว 16% ของนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด มีการเทขายหุ้นเวียดนามในปีนี้รวมกันถึง 166 ล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า การเทขายดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเกาหลีหันไปให้ความสนใจตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
“Bitcoin และหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคขนาดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาค่อนข้างมาก ซึ่งดึงดูดนักลงทุนมากกว่าหุ้นเวียดนามที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่า” Lee Soyeon นักกลยุทธ์การตลาดของ Korea Investment & Securities Co กล่าว
ขณะที่ Stephen McKeever หัวหน้าแผนกลูกค้าสถาบันของ Ho Chi Minh City Securities Corp. กล่าวว่า การขายของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เป็นการทำกำไรปกติ เมื่อตลาดทำผลงานได้ดีก็ย่อมมีการขายทำกำไรระหว่างทาง ขณะที่การเทขายในส่วนที่เหลือเป็นของนักลงทุนเกาหลีใต้ ที่หันไปให้ความสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคของสหรัฐฯ เช่น Tesla แทน
“เราเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาในตลาดเวียดนามอีก การเทขายในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้บ่งชี้ว่าหุ้นเวียดนามหมดความน่าสนใจ เพราะนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ยังมีมุมมองต่อหุ้นเวียดนามในเชิงบวก” McKeever กล่าว
ด้าน Jessica Tea จาก BNP Paribas Asset Management และ Quynh Cao จาก SSI Securities Corp. วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นเวียดนามยังน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติในระยะยาว จากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งในแง่จำนวนประชากร และการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของเอเชีย ซึ่งทำให้โอกาสที่นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกมีสูง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP