บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทด้านความบันเทิงผู้พัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ผลิต และสร้างสรรค์ภาพยนตร์และซีรีส์แอนิเมชัน ล่าสุดเปิดตัว Crown Token (CWT) สินทรัพย์ดิจิทัลเชื่อมโยงทรัพย์สินทางปัญญาสู่โลก NFT และ Metaverse โดยจะเริ่มเปิดให้เทรดเหรียญบน Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลและเป็นหนึ่งในพันธมิตรของ CWT
ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) กล่าวว่า CWT นับเป็นมิติใหม่ของวงการ Utility Token ในการนำเอาจุดเด่นของทรัพย์สินทางปัญญา Intellectual Property (IP) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสำคัญของบริษัท และรวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์แอนิเมชัน มาต่อยอดทางธุรกิจให้มีความหลากหลาย รวมถึงการสร้าง NFT บน NFT Platform ที่บริษัทจะพัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำของไทยและต่างประเทศ และต่อยอดสู่การนำไปใช้จริงใน Metaverse รวมถึง Translucia Metaverse อีกหนึ่งโปรเจกต์ใหญ่ที่บริษัทกำลังพัฒนา
สำหรับโปรเจกต์แอนิเมชัน บริษัทได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับและทีมงานระดับโลก อาทิ Andrew Gordon หนึ่งใน Executive Producer ของโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัทและได้มีการวางแผนพัฒนา NFT ร่วมกันในขณะนี้ สำหรับผลงานเป็นที่รู้จักจากแอนิเมชันชื่อดังอย่าง ‘Monsters, Inc.’, ‘Ratatouille’, ‘Finding Nemo’, ‘Toy Story’
นอกจากนี้ บริษัทมีพันธมิตรที่สำคัญหลายรายในจีน เพื่อนำแอนิเมชันที่คนไทยร่วมเป็นเจ้าของบุกตลาดจีน โดย Kenji Xiao อดีตซีอีโอของThreeZero และ Chief Planner/Bureau Member of Wu Zhen International Project of Future Visual Arts ผู้มีประสบการณ์ในวงการแอนิเมชันของจีน เป็นหนึ่งในทีม Executive Producer ของโปรเจกต์ที่เน้นบุกตลาดจีน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม SMO ที่จะเป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการสร้างคอมมูนิตี้การสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ผลิตผลงาน ศิลปิน และกลุ่มผู้ชื่นชอบ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งให้กับ Crown Token อีกด้วย
ด้าน พรรณธร ลออรรถวุฒิ CFA, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท T&B Media Global และประธานกรรมการบริหาร บริษัท VUCA Digital กล่าวว่า CWT มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของผลประโยชน์และการพัฒนาอีโคซิสเต็มอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการใช้งานอย่างหลากหลาย รวมถึงการพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและบริษัทในเครือ โดยบริษัท VUCA Digital ได้จับมือกับบริษัท Pellar Technology ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และมีประสบการณ์และความสำเร็จจากโปรเจกต์ NFT ระดับสากล มาร่วมสร้าง NFT Platform ‘ADOT’ ที่จะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ โดย ADOT ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับสากล ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาต่อยอด IP ของบริษัทไปสู่ตลาด NFT และเชื่อมโยงไปถึง Metaverse ซึ่งเป็นหลักไมล์สำคัญของบริษัทในอนาคตอีกด้วย
พรรณธรกล่าวว่า IP ยังสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีกมากมายเช่น เกม, การ์ตูน, Licensing & Merchandising, นิยาย และสวนสนุกธีมพาร์ก ซึ่งมีมูลค่าตลาดโลกโดยรวมกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์
CWT มีจำนวนโทเคนจำกัดทั้งหมด 140 ล้านโทเคน โดยจะเปิดให้ซื้อขายในวันที่ 3 มีนาคม 2565 บน Zipmex นอกจากนี้เรายังได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้ซื้อขาย CWT ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP