ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง เมื่อเวลาประมาณ 19.10 น. ความคืบหน้าของคดี 5 แกนนำ ‘คนอยากเลือกตั้ง’ หรือ MBK39 ที่ถูกตั้งข้อหาใน 3 ฐานความผิด คือ 1. ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมการเมืองเกินกว่า 5 คนขึ้นไป 2. กระทำการยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 3. ความผิดร่วมกันชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 มาตรา 7 วรรคแรก
จากกรณีการจัดชุมนุมที่สกายวอล์กแยกปทุมวันเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอศาลขออำนาจฝากขัง
ล่าสุดศาลได้พิจารณา โดยพิเคราะห์คำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ของผู้ร้อง (พนักงานสอบสวน) ประกอบคำคัดค้านของผู้ต้องหาทั้ง 5 ตลอดจนข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการไต่สวนแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 5 ให้ความร่วมมือในการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน คือภาพถ่ายและภาพวิดีทัศน์ไว้เป็นส่วนใหญ่แล้ว สำหรับพยานบุคคลที่เหลืออีก 5 ปาก ปรากฏว่าล้วนแต่เป็นเจ้าพนักงานทั้งสิ้น ซึ่งผู้ร้องสามารถดำเนินการสอบสวนต่อไปได้ โดยไม่มีความจำเป็นต้องขังผู้ต้องหาทั้ง 5 โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่ 5 การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 จะไปเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 และเกรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น เป็นเพียงการคาดคะเนของผู้ร้องเท่านั้น กรณีไม่มีเหตุจำเป็นที่จะขังผู้ต้องหาทั้ง 5 ระหว่างสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ต่อไป จึงให้ยกคำร้อง
โดยในส่วนรายละเอียดคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้นี้ เป็นส่วนของผู้ชุมนุมที่ถูกระบุว่าเป็นแกนนำในการจัดการชุมนุม ซึ่งมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ ได้แก่ นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ, นายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และนายวีระ สมความคิด
ขณะที่นายสมบัติและนายวีระ ถูกแจ้งเพิ่มเติมว่าข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 116 หลังประกาศออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่วนแกนนำที่เหลืออย่าง นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, นายอานนท์ นำภา และนายเอกชัย หงส์กังวาน ได้ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไป ขณะที่นายนพเก้า คงสุวรรณ ผู้สื่อข่าวจากข่าวสด ก็ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน
ด้านนายอานนท์ นำภา ทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการประชุมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าเงินที่ระดมทุนมาจะเอาไปทำอะไรต่อ แต่เบื้องต้นตนเชื่อว่าจะเก็บไว้เป็นกองทุนสำหรับเงินประกันในคดีเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของกลุ่มนักวิชาการต่อไป ส่วนการชุมนุมในวันที่ 10 กุมภาพันธ์จะดำเนินการตามแผนเดิม
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ที่ศาลแขวงปทุมวัน เมื่อเวลาประมาณ 15.50 น. ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาเพื่อขออำนาจศาลผัดฟ้องในส่วนของผู้ร่วมชุมนุม 29 คน ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ชุมนุมและขัดคำสั่งที่ 3/58 โดยศาลสั่งให้ผัดฟ้องและปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข