วันนี้ (30 เมษายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวเปิดเผยว่า มาตรการผ่อนปรน 6 กลุ่มกิจการ ได้แก่
- ตลาด ได้แก่ ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย ในที่นี้สามารถขายเสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ ได้จากเดิมที่ขายได้แค่อาหาร
- ร้านจำหน่ายอาหาร ได้แก่ ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ ในที่นี้หมายถึงร้านอาหารห้องแถวไม่เกิน 2 คูหา สามารถนั่งทานในร้านได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างของที่นั่ง
- กิจการค้าปลีก-ส่ง ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
- กีฬา สันทนาการ ได้แก่ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดินรำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟและสนามซ้อม
- ร้านตัดผม เสริมสวย ได้แก่ ร้านตัดผม เฉพาะสระ ไดร์ผม
- อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยง รับฝากสัตว์
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในรายละเอียดแต่ละกลุ่มจะมีมาตรการหลักในการควบคุมตามข้อกำหนด รวมถึงมีมาตรการเสริมออกมาเป็นรายละเอียดในภายหลัง ซึ่งจะส่งไปยังแต่ละจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์กับประชาชน เพื่อให้ทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการปลอดภัยทั้งสองฝ่าย
“เมื่อเช้านี้ท่าน ผอ.ศบค. ก็บอกว่าสักวันที่ 3 พฤษภาคมก็เริ่มกิจการต่างๆ เหล่านี้ไปได้ และจะใช้ช่วงเวลา 14 วัน ประเมินผล ถ้ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อคงที่ไปเรื่อยๆ เราก็สามารถเลื่อนไปผ่อนคลายกิจกรรมมากขึ้นในกลุ่มถัดไป แต่ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2 หลัก มาตรการผ่อนคลายต้องถูกทบทวนทั้งหมด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนการขายสุรายืนยันว่า ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ และยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ หากจำนวนผู้ป่วยใหม่นับจากนี้ไม่เกิน 20-30 คนต่อวัน จะสามารถเปิดกิจการในกลุ่มต่อไปได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล