วันนี้ (26 กรกฎาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงถึงประเด็นความกังวลของกระทรวงสาธารณสุขที่มีต่อศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ที่เปิดให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม และสตรีมีครรภ์เกิน 12 เดือนขึ้นไป สามารถ Walk-in เข้ามารับวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 22-31 กรกฎาคม จนทำให้มีประชาชนจำนวนมากทั้งในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และต่างจังหวัด เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อ จนเกิดความแออัดและอาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
พญ.อภิสมัย แจงว่า ในขณะนี้ทาง ศบค. กำลังอยู่ในระหว่างการหารือเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และได้ฝากไปยังสถานีกลางบางซื่อให้พิจารณาการชะลอฉีดวัคซีนในช่วงนี้ เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่เดินทางเข้ามา จนทำให้ยากต่อการจัดระเบียบและเว้นระยะห่าง
พร้อมฝากถึงประชาชนที่กำลังตัดสินใจจะออกจากบ้านเพื่อไปฉีดวัคซีน ให้ติดตามสถานการณ์ของจุดฉีดวัคซีนว่าอาจจะมีการขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการการจัดการเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
พญ.อภิสมัย ได้ย้ำถึงความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข ที่วางเป้าให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นจำนวน 50% ซึ่งในปัจจุบันตัวเลขค่อนข้างที่จะเดินช้าพอสมควร ในส่วนของกรมควบคุมโรคแจงว่ามีการจัดส่งวัคซีนไปจังหวัดอื่นๆ และค้างอยู่เป็นจำนวน 2 ล้านโดส ก็ขอให้เร่งระดมฉีด โดยเน้นย้ำการจัดการเว้นระยะห่าง และนัดหมายประชาชนเพื่อลดความแออัด
ล่าสุดวันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ กทม. เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนี้ ภายใต้การดำเนินงานของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม – 25 กรกฎาคม 2564 ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วจำนวน 988,788 โดส มีบุคลากรจำนวนกว่า 422 คน ซึ่งได้รับการตรวจหาเชื้อเป็นระยะ ที่ผ่านมายังไม่พบบุคลากรที่ให้บริการติดเชื้อ โดยในวันนี้กระทรวงคมนาคมเข้ามาวางระบบให้มีการเว้นระยะห่างเพิ่มเติม เพื่อลดความแออัดและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสวมหน้ากาก 100% พร้อมมีจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เป็นระยะๆ เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อ
อนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่เป็นผู้สูงอายุ อยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทรวงสาธารณสุขให้ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อปรับแผนการให้บริการเน้นฉีดกลุ่ม ‘602’ คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ หากกลุ่มนี้ติดเชื้อจะมีความรุนแรงและเสี่ยงเสียชีวิตสูง ที่ผ่านมามีกลุ่มดังกล่าวเข้ารับบริการเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวก อาจเกิดความหนาแน่นในบางช่วงเวลา เช่น 08.00-10.00 น. จึงขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการเข้ารับบริการช่วงเวลาดังกล่าว แนะมาช่วงบ่ายจะช่วยลดความแออัดได้ รวมถึงปรับแผนจุดให้บริการ โดยผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี สุขภาพแข็งแรง และมีความสมัครใจ สามารถไปจุดลงทะเบียนโดยไม่ต้องวัดความดัน ส่วนในผู้ที่ทำการจองนัดผ่าน 4 ค่ายมือถือ มีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว เมื่อถึงวันนัดให้ใช้แอปพลิเคชัน ‘วัคซีนบางซื่อ’ เพื่อกรอกข้อมูลลงทะเบียน รับใบคัดกรอง และผ่านเข้าจุดการฉีดวัคซีนได้เลย
“ขอความร่วมมือประชาชน หากในครอบครัวมีผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ ขอให้พาเข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่คนที่ท่านรัก นอกจากนี้ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จากศูนย์บริการอื่น ขอให้ท่านรับวัคซีนเข็ม 2 ที่จุดเดิม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบ” อนุทินกล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการ Walk-in สำหรับผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งในระยะต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ที่ผ่านการลงทะเบียนเท่านั้น เฉลี่ยวันละ 20,000 คน