บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/64 มีรายได้รวม 46,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% และขาดทุนสุทธิ 426 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 83.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยหลักมาจากการเปิดบริการของธุรกิจทุกส่วนงานตลอดไตรมาสในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีการปิดสาขาชั่วคราวของธุรกิจ Non Food ช่วงกลางเดือนมีนาคมจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมตามมาตรการของรัฐบาล ทั้งในไทย เวียดนามและอิตาลี ตลอดจนการรวมธุรกิจของ COL ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศไทยรวมทั้งประเทศเวียดนามยังคงส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของลูกค้าและการดำเนินงาน เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นระยะนั้น ทำให้มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง
รวมถึงการจำกัดเวลาในการให้บริการของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ได้ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่เข้าร้านของบริษัทลดลง อย่างไรก็ดี แนวโน้มจากการที่ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในที่พักอาศัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการทำงานหรือการเรียนจากที่บ้าน รวมทั้งข้อจำกัดในการเดินทาง เป็นโอกาสทางธุรกิจในการเร่งแผนงานการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่ใกล้ที่พักอาศัย และขยายแพลตฟอร์มและการบริการผ่านช่องทาง Omnichannel อย่างต่อเนื่อง
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ธุรกิจฮาร์ดไลน์มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง เซ็นทรัล รีเทลมา ซึ่งเป็นผลมาจากการทำตามกลยุทธ์เชิงรุกที่ได้ตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการควบรวม บมจ.ซีโอแอล (COL) ที่ทำให้ธุรกิจฮาร์ดไลน์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม B2B รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของไทวัสดุ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขาในปีนี้ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาภายในสิ้นปี นอกจากนี้ยังเตรียมแผนที่จะขยายไทวัสดุไปยังประเทศเวียดนามอีกด้วย
การเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ของทาง Omnichannel ทั้งในไทยและเวียดนามที่ได้มีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน GO! ของธุรกิจฟู้ด โดยในเวียดนามนั้นได้เปิดศูนย์การค้า GO! สาขาท้ายเหงียนในเดือนเมษายน และยังเตรียมเปิด GO! สาขาใหม่อีก 2 แห่ง ภายในไตรมาสที่ 3/64
“ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 คือเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงกลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีหลังเราจะยังคงเน้นการเติบโตและการขยายธุรกิจผ่านการลงทุน การควบรวม และการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ” แม่ทัพ CRC กล่าว