วันนี้ (12 พฤศจิกายน) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 18/2564 เห็นชอบปรับระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ปรับจังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ศบค. ยังคงปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เลื่อนเปิดบริการจาก 1 ธันวาคม 2564 เป็น 16 มกราคม 2565 พร้อมเตรียมจัดตั้ง ศบค.ด้านการท่องเที่ยว กลั่นกรองมาตรการและแนวทางการเดินทางเข้าประเทศและการท่องเที่ยวไทย
ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวชื่นชมความสำเร็จในการควบคุมโควิดของไทย ซึ่งเกิดจากการบูรณาการทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม สงครามโรคครั้งนี้ยังไม่ยุติ ทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) และมาตรการ DMHTT ต่อไป งานสังคมต่างๆ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากอาจเป็นแหล่งของการกระจายโรคอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่จะต้องจัดแบบให้มีระยะห่าง การจัดประชุมยังคงต้องใช้การประชุมทางไกลต่อไป การแข่งขันกีฬา โรงเรียน ก็ต้องมีมาตรการคัดกรอง เฝ้าระวัง เพื่อลดการระบาดของโรคให้ได้ สำหรับภาพรวมการฉีดวัคซีนจะสามารถครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ผลิตโดยคนไทย โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด ChulaCov19 mRNA เพื่อการทดสอบทางคลินิกในระยะที่ 3 และโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด (วัคซีนใบยา) ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นความสำเร็จของวัคซีนไทยในปีหน้า รวมทั้งยังได้วางแผนจัดหายารักษาโควิดเพิ่มเติม 2 ชนิด คือ โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) และแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและความรุนแรงในการเจ็บป่วยของผู้ป่วยโควิด
ในที่ประชุม พล.อ. ประยุทธ์ยังแสดงความห่วงใยปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการลักลอบนำแรงงานเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย สั่งการกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย (มท.) ร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชน เร่งสำรวจความต้องการแรงงานต่างด้าว เพื่อนำเข้าแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายตามความจำเป็นเร่งด่วน ผ่านแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU ซึ่งต้องมีการขึ้นทะเบียน ตรวจสอบ คัดกรอง รวมถึงการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดด้วย
รวมทั้งสั่งการฝ่ายความมั่นคงเพิ่มกำลังเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน หลังจากที่มีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น กำชับให้สืบสวนไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังทั้งนายหน้ากระบวนการนำเข้าและขนส่งแรงงานไปตามสถานที่ประกอบการและโรงงาน ขณะเดียวกันขอให้ทุกจังหวัดสำรวจจำนวนโรงงานในพื้นที่และความต้องการแรงงานในพื้นที่ด้วย
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวถึงการเดินทางไปตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ในสัปดาห์หน้า 15-16 พฤศจิกายน เพื่อรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย (Smart Entry) และกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เป็นโมเดลสำคัญสำหรับจังหวัดอื่นๆ ในการเตรียมความพร้อมการป้องกันโรค การควบคุมบุคคลเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ และแผนเผชิญเหตุ
พล.อ. ประยุทธ์ยังรายงานผลการเปิดประเทศ หลัง 1 พฤศจิกายน ความต้องการ (Demand) มีสายการบินแจ้งเส้นทางบินเข้าประเทศไทยมากขึ้น และมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยในขณะนี้มีผู้ยื่นขอลงทะเบียน Thailand Pass ณ 11 พฤศจิกายน จำนวน 147,503 ราย อนุมัติแล้ว 92,920 คน
พล.อ. ประยุทธ์ยังได้รับทราบปัญหาระบบ ได้สั่งการให้มีการดำเนิน Thailand Pass QR Code ด้วย ซึ่งต้องมีการเตรียมพร้อม โดยสั่งการให้จัดตั้ง ศบค. ด้านการท่องเที่ยว เพื่อทำงานกลั่นกรองภาพรวมการเดินทางเข้าประเทศทั้งแนวทาง มาตรการ รวมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาความล่าช้าของระบบ Thailand Pass QR Code เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งเพื่อการท่องเที่ยว ทำงาน หรือคนไทยที่อยู่ต่างแดนจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมประเทศความเสี่ยงต่ำ ปัจจุบันมี 63 ประเทศ/พื้นที่ รวมทั้งให้แต่ละจังหวัดพิจารณาการอนุญาตให้มีการเปิดการแข่งขันกีฬาท้องถิ่น กิจกรรมพื้นเมือง เช่น การประกวดนก สนามแข่งม้า ซึ่งต้องเป็นไปตามมาตรการสาธารณสุขและการเฝ้าระวังโรคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งคนที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องฉีดวัคซีนแล้ว
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีมติสำคัญดังนี้
เห็นชอบ การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ประกอบด้วย ตาก, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา ขณะที่ปรับจังหวัดจันทบุรีเพิ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมเป็น 39 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด
ยังคงปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเห็นชอบเลื่อนการเปิดบริการจากแผนเดิม 1 ธันวาคม 2564 เป็น 16 มกราคม 2565 เพื่อเตรียมการและประเมินสถานการณ์การระบาดและความครอบคลุมการได้รับวัคซีน โดยมอบหมาย ศปก.ศบค., มหาดไทย, สาธารณสุข, คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด, กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดสถานบันเทิง และกำกับติดตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิดแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง
เห็นชอบแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU รวมทั้งเดินหน้าโครงการ Factory Sandbox โดยมีการขยายขอบจังหวัดจาก 4 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด ปรับลดหลักเกณท์ขนาดสถานประกอบการจาก 500 คน เป็น 100 คน เพื่อให้ครอบคลุมให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม พล.อ. ประยุทธ์กล่าวให้กำลังใจให้ทุกภาคส่วน ในทุกวิกฤตมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ และโควิดก็สามารถกลับมาระบาดได้ทุกเมื่อ แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้วิธีปรับตัวให้อยู่รอด และเตรียมก้าวเดินหรือก้าวกระโดดต่อไป
ธนกรยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวในที่ประชุมถึงการทำงานของรัฐบาลผสมที่มีหลายพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลว่า ทุกนโยบายที่ขับเคลื่อนถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลพรรคร่วม โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ขับเคลื่อน สั่งการ และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทุกความสำเร็จคือผลงานร่วมกันของทุกพรรค ทุกคน