หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์เรื่อง Crash Course in Romance
หลังจากที่เรื่องราวความรักแห่งหมู่บ้านกงจินประสบความสำเร็จใน Hometown Cha-Cha-Cha ไปแล้ว คราวนี้ Studio Dragon ได้พาผู้กำกับ ยูเจวอน กลับมาเขย่าหัวใจผู้ชมอีกครั้งใน Crash Course in Romance ผลงานซีรีส์แนวรอมคอมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยลายเซ็นของเจ้าตัว ซึ่งเรตติ้งในตอนล่าสุดพุ่งขึ้นถึง 12.03% ระหว่างการฉาย สร้างสถิติได้สูงสุดเมื่อเทียบกับอีพีเปิดตัวครั้งแรก
Crash Course in Romance ว่าด้วยเรื่องราวของ ชเวชียอล (รับบทโดย จองคยองโฮ จาก Hospital Playlist) ปรมาจารย์วิชาคณิตศาสตร์แห่งสถาบันกวดวิชา The Pride เจ้าของสโลแกน ‘Pride Maketh Math!’ ที่มีทั้งกลุ่มนักเรียนมัธยมและผู้ปกครองติดตามอย่างเนืองแน่น จนกลายเป็นติวเตอร์เบอร์ต้นของประเทศ ภายใต้ความสำเร็จระดับมูลค่าล้านล้านของเขามีเบื้องหลังแสนเจ็บปวดซ่อนอยู่คือ ร่างกายของชเวชียอลมีความผิดปกติทางด้านการกินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต (Eating Disorder) ไม่ว่าเขาจะกินอะไรเข้าไป สุดท้ายก็ต้องสำรอกออกมา กระทั่งร่างกายผอมซูบและขาดสารอาหาร
เชื่อมโยงไปยังนางเอกของเรื่องอย่าง นัมแฮงซอน (รับบทโดย จอนโดยอน จาก Lost) อดีตนักกีฬาทีมชาติผู้สูญเสียแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ จนต้องโบกมือลาความฝันนั้นแล้วมาทำหน้าที่เป็นแม่ดูแลหลานสาวอย่าง นัมแฮอี (รับบทโดย โนยุนซอ จาก Our Blues) ที่พี่สาวของเธอได้ทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่เด็ก แฮงซอนได้เปิดร้านเครื่องเคียงอาหาร โดยมีน้องชายที่เป็นออทิสติกและเพื่อนสาวร่วมดูแล
ระหว่างการเติบโตของนัมแฮอีในวัยมัธยมแลดูจะทุลักทุเลขึ้นเรื่อยๆ เธออยู่ในช่วงที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แฮอีพยายามอ่านหนังสือด้วยตัวเองมาตลอด เพราะอยากช่วยผ่อนปรนค่าใช้จ่ายทางบ้าน หากแต่ก็ยังไม่สามารถตามทันเด็กคนอื่นๆ ที่เรียนกับติวเตอร์ข้างนอกได้ทันท่วงที ท่ามกลางการแข่งขันของกลุ่มผู้ปกครองที่พร้อมผลักดันลูกของตัวเองให้อยู่อันดับเหนือกว่าคนอื่น
ด้วยเหตุนี้นัมแฮอีจึงตั้งเป้าหมายว่าอยากเข้าร่วมคอร์สของชเวชียอลเหมือนกับเพื่อนๆ เหมาะเจาะกับจังหวะที่นัมแฮงซอนเคยมีปัญหากับชเวชียอลด้วยสถานการณ์ตลกร้ายพอดี จุดเชื่อมโยงดังกล่าวทำให้ทุกคนต้องมาพัวพันกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตามมาด้วยเรื่องราวที่แสนอันตราย เมื่อชเวชียอลคนสมบูรณ์แบบแต่สุดเฮี้ยบดันถูกจับตาด้วยบุคคลนิรนามที่แอบสอดส่องอยู่ตลอดเวลา
ถ้าให้มองแบบผิวเผิน ซีรีส์เรื่องนี้อาจดูธรรมดาเหมือนชีวิตคนทั่วไป หากแต่เมื่อเราได้ลองรับชมกลับพบว่ามีความน่าสนใจหลายอย่างที่ผู้กำกับยูเจวอนพยายามนำเสนอ โดยเฉพาะเรื่องราวของระบบการศึกษาในเกาหลีใต้อันแสนเข้มข้น ทุกคนล้วนต้องผ่านสมรภูมิดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ตัวละครหลักอย่างชเวชียอลคือบทบาทที่ชี้ให้เห็นว่าการศึกษาภายในรั้วโรงเรียนนั้นไม่ได้เพียงพอต่อเวทีการสอบ คล้ายคลึงกับสถานการณ์ของนักเรียนในประเทศไทย ที่นอกจากจะต้องร่ำเรียนอย่างหนักหน่วง หลายคนยังต้องพึ่งพาติวเตอร์ข้างนอกเพิ่มเติมอีกขั้นหนึ่ง
ภาพ: JTBC
จุดนี้ทำให้เราหวนนึกถึงซีรีส์เข้มข้นขั้นขึ้นหิ้งอย่าง Sky Castle (2018) ที่มีตัวละครสุดฮิตอย่าง โค้ชคิม (แสดงโดย คิมซอฮยอง) เป็นผู้กุมบังเหียนชะตากรรมของเหล่านักเรียนมัธยม ผู้ปกครองทุกคนล้วนไว้วางใจในตัวเธอ กระทั่งยอมแก่งแย่งกันทุกหนทางแม้ว่าจะต้องทำเรื่องสกปรกก็ตาม ซึ่งบางช่วงของซีรีส์ยังมีการช่วงชิงสิทธิพิเศษของกลุ่มเด็กๆ ด้วยกันเอง ใครที่อ่อนแอก็ต้องพ่ายแพ้ไป ทุกอย่างได้ถูกขับเคลื่อนผ่านความอุตสาหะแบบเกินพอดีจากบรรดาผู้ปกครองแสนทะเยอทะยาน แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็มีมุมดังกล่าวให้เราได้เห็น
ไม่ใช่เพียง Crash Course in Romance ที่พยายามเล่าถึงประเด็นอันหนักหน่วงสำหรับวงการการศึกษาในเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่เรามักได้เห็นมุมมองที่เจ็บปวดและพากเพียรเกินพอดีของเหล่านักเรียนผ่านซีรีส์หลายเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าการเป็นวัยรุ่นในประเทศนี้ล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวังผสมกับความกดดันที่สูง สอดคล้องกับวลีแบบที่ผู้ใหญ่มักบอกกับเราอยู่เสมอว่า ‘ตั้งใจเรียนให้ดี เพื่ออนาคตข้างหน้า’
อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศเกาหลีใต้นั้นให้ความสำคัญต่อการสอบเป็นอย่างมาก เพราะนั่นคือการสร้างโปรไฟล์และภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับปัจเจกบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการการันตีด้านกึ๋น วัดความล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จได้ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของตัวคน ตลอดจนสามารถต่อยอดใบเบิกทางเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยและอาชีพการงานในอนาคตตามมา ไม่แปลกที่ค่านิยมเฉกเช่นนี้จะทำให้เด็กเกาหลีใต้หลายคนล้วนต้องแบกรับทุกอย่างภายใต้ระบอบทุนนิยม ที่คนภายในประเทศเป็นผู้ออกแบบ และกระตุ้นให้ว่าที่ฟันเฟืองรุ่นใหม่ต้องคอยดิ้นรนอยู่เสมอ
ด้านการออกแบบซีรีส์ ผู้กำกับยูเจวอนยังมีกลิ่นอายจากผลงานก่อนหน้าคละคลุ้งเข้ามาใน Crash Course in Romance อย่างแง่มุมของปมตัวละครที่แสนจะหนักหน่วง
เมื่อผู้ชมได้ดูเรื่องนี้แล้วจะพบว่าชเวชียอลมีเรื่องราวในอดีตตามหลอกหลอนเขาเป็นพันธนาการที่แกะไม่ออก เสมือนกับบทบาทของ ฮงดูชิก (รับบทโดย คิมซอนโฮ) จาก Hometown Cha-Cha-Cha ที่เคยสูญเสียบุคคลอันเป็นเหมือนพี่ชายเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ไป จนเขารู้สึกผิดฝังลึกในหัวใจมาจนถึงปัจจุบัน
เช่นเดียวกับชเวชียอลที่มีมุมมองนี้ไม่ต่างไปจากฮงดูชิก เนื่องจากนักเรียนในความดูแลของเขาดันเลือกฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาการทุจริตข้อสอบ ชียอลยังคงต้องทนทุกข์กับปมเรื่องนี้ กระทั่งส่งผลให้เขามีปัญหาด้านการนอนหลับไม่สนิท และจุดนี้เองที่ทำให้เราได้พบถึงความเชื่อมโยงระหว่างฮงดูชิกและชเวชียอลในแง่ของ ‘บาดแผล’ ที่เหวอะหวะจนกัดกร่อนความเป็นตัวตนของพวกเขาไป
ภาพ: tvN
ภาพ: MBC
มากไปกว่านั้น ยางฮีซึง นักเขียนบทผู้เคยร่วมกระโจนโปรเจกต์กับยูเจวอนจนถึงเรื่องนี้ ก็ยังคงเลือกที่จะใช้กิมมิกประจำตัวของพวกเขาในเรื่องนี้อยู่ นั่นคือ ‘ปมฆาตกร’ ที่คอซีรีส์เกาหลีใต้หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านผลงานก่อนๆ อย่าง Oh My Ghost (2015), Tomorrow with You (2017), Million Stars From the Sky (2018), Abyss (2019) ที่แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นซีรีส์แนวโรแมนติก ทว่ายังแฝงรสชาติดำมืดจากฆาตกรปริศนาไว้แบบเจือจาง
หรือแม้กระทั่งแง่มุมเล็กๆ เกี่ยวกับอาชีพของตัวละครเอกที่ต้องพัวพันกับของกินหรือร้านอาหาร จุดนี้ทำให้เรานึกถึงตัวละครเอกอย่าง เชฟคังซอนอู (รับบทโดย โจจองซอก) จาก Oh My Ghost ที่เป็นคนรังสรรค์อาหารการกิน หรือ คิมบ๊กจู (รับบทโดย อีซองคยอง) ลูกสาวเจ้าของร้านไก่ทอด จาก Weightlifting Fairy Kim Bok Joo กิมมิกเล็กน้อยจากนักเขียนบทยางฮีซึงด้านนี้อาจกล่าวได้ว่า อาหารคือสิ่งพื้นฐานที่แทรกซึมในชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา ไม่แปลกที่เรามักจะเห็นเขาออกแบบตัวละครแล้วเกี่ยวข้องกับมัน หากไร้การกิน ร่างกายเราก็ย่ำแย่ ไม่ต่างไปจากชเวชียอลที่ต้องการพึ่งพิงอาหารของนัมแฮงซอนอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้สุขภาพตัวเองทรุดโทรม
อีกความน่าสนใจสำหรับ Crash Course in Romance คือกองทัพนักแสดงที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือ เช่น คิมซอนยอง จาก Crash Landing on You ที่มารับบทเป็นคุณแม่เจ้าเล่ห์จอมวางแผน, จางยองนัม จาก It’s Okay to Not Be Okay กับบททนายหญิงผู้แข็งกระด้าง หรือแม้กระทั่งการโผล่มาแวบๆ ของราชินีแห่งการเป็นแม่อย่าง คิมมีคยอง จาก The Master’s Sun พ่วงด้วยชุดนักแสดงจาก Hometown Cha-Cha-Cha ไม่ว่าจะเป็น โออึยชิก ตามด้วย อีบงรยอน และล่าสุดกับปรากฏตัวแวบๆ ของคุณยายอียงอี ผู้แอบมาขโมยซีนเล็กน้อยให้ได้หายคิดถึง
สิ่งที่น่าสนใจในการผลิตตัวละครของยูเจวอน เราพบว่าเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับทุกตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะบทเด่นหรือน้อยเพียงใด เราจะเห็นถึงความเป็นมนุษย์ของทุกตัวละครอย่างชัดเจน จึงไม่แปลกที่เราจะสามารถจดจำนักแสดงสมทบทั้งหมดได้ ตั้งแต่ชาวบ้านในกงจิน มาจนถึงคนรอบตัวของชเวชียอลและนัมแฮงซอน ผู้คนรอบตัวของพวกเขาล้วนมีเสน่ห์และทำให้เรารู้สึกอินกับไปด้วยอย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งนี้เองที่ส่งได้ซีรีส์ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยมิติ อีกทั้งยังส่งให้ผู้ชมได้เข้าถึงและรู้สึกอยากติดตามความเป็นไปในชีวิตของตัวละครต่างๆ ไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
สุดท้ายที่เราอยากพูดถึงคือบรรยากาศภายในเรื่องนี้ที่เนืองแน่นไปด้วยโหมดฟีลกู๊ด ไม่ว่าจะเป็นมุมมองความคิดของนางเอกที่มีความแข็งแรงและช่วยปลอมประโลมชเวชียอลได้อย่างอบอุ่น ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ตลอดจนโมเมนต์โรแมนติกที่ไม่ได้มีความหวือหวาเหมือนซีรีส์รอมคอมทั่วไป อาจเป็นเพราะตัวละครเอกทั้งสองคนอยู่ในจุดที่ต้องใส่ใจกับภาระหน้าที่การงาน และโครงสร้างของพล็อตมีการเขยิบไปมาทีละนิดแบบไม่ได้เร่งรัด ทุกอย่างล้วนมีพัฒนาการ นี่จึงเป็นอีกสิ่งที่เรามองว่า Crash Course in Romance เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและวิธีการเล่าเรื่อง
ขณะนี้ซีรีส์ก็ได้ดำเนินมาจนถึงอีพีที่ 6 แล้ว พร้อมกับปมภายในเรื่องที่เริ่มเฉลยทีละนิด หากใครที่สนใจรับชมและดื่มด่ำไปกับโลกแห่งความอลวนของชเวชียอล สามารถรับชมกันได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ผ่านทางสตรีมมิง Netflix
รับชมตัวอย่างซีรีส์ Crash Course in Romance ได้ที่
ภาพ: tvN