ค่ายเพลง What The Duck คือหนึ่งในค่ายเพลงไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุด จากการปลุกปั้นศิลปินขึ้นมาประดับวงการมากมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเพลงกระแสหลักและซีนอินดี้ ไม่ว่าจะเป็น สิงโต นำโชค, THE TOYS, Whal & Dolph หรือตัวแม่คนล่าสุดอย่าง BOWKYLION ที่เพิ่งมีคอนเสิร์ตใหญ่ผ่านไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และล่าสุดพวกเขาเพิ่งฉลองครบรอบ 9 ปีในการก่อตั้งค่ายไปหมาดๆ
คำถามคือค่ายเพลงเล็กๆ ที่ออกจะดูอินดี้ในตอนต้น ทำไมถึงสามารถพาศิลปินหลายๆ เบอร์ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินแถวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาใช้วิธีหรือแนวคิดแบบไหนในการสร้างงานและสร้างศิลปินตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา?
ภาพ: What The Duck
ยุคสร้างตัวของค่ายเพลงเป็ด
What The Duck เริ่มต้นโดย 3 ผู้บริหารคือ มอย-สามขวัญ ตันสมพงษ์, บอล-ต่อพงศ์ จันทบุบผา และ ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต ซึ่งทุกคนมีไอเดียตรงกันว่าอยากสร้างพื้นที่อิสระให้กับศิลปินและนักดนตรีรุ่นใหม่ที่มีใจรักและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแสดงความสามารถและผลิตผลงานเพลงในรูปแบบของตัวเองโดยไม่ปิดกั้นและแบ่งแยกแนวเพลง จึงเกิดเป็นค่ายเพลงที่ชื่อ What The Duck ในปี 2014
ศิลปินในยุคแรกเริ่มของค่ายไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ สิงโต นำโชค ที่ปัจจุบันเขาเองก็เป็นหนึ่งในศิลปินแถวหน้าของวงการ
ภาพ: MThai
แต่นอกจากบทบาทศิลปินของเขาจะโดดเด่นแล้ว ค่าย What The Duck เองยังต่อยอดตัวเขาในสายงานอื่นๆ ให้คนได้รู้จักตัวตนเขามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดง พิธีกร หรือการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำอัลบั้มภาษาอังกฤษ ทั้งยังเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้สัมภาษณ์กับ BBC Radio และแรงกระเพื่อมแรกที่เกิดขึ้นคือการทำให้ สิงโต นำโชค ได้แสดงศักยภาพของเขาในด้านอื่นๆ ให้แฟนเพลงได้เห็น โดยเฉพาะการพูดคุยตอบโต้ในบทสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษล้วนแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนให้ความสนใจ
ในช่วงนั้นเอง What The Duck ยังดูแลและพัฒนาศิลปินให้เติบโตไปในสายงานอื่นๆ ด้วย เช่น แป้งโกะ ที่ในขณะนั้นเองเธอก็ได้ปล่อยผลงานเพลงและแสดงละครกับทางช่อง one31 ไปด้วย หรือการดูแลศิลปินอย่าง เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่บทบาทการเป็นศิลปินเดี่ยวของเขาชัดเจนขึ้นมากเมื่อเข้ามาทำงานกับ What The Duck ควบคู่ไปกับงานแสดง รวมไปถึงในช่วงเริ่มพวกเขายังสร้างเพลงฮิตระดับ 100 ล้านวิวได้เป็นเพลงแรกของค่ายนั่นคือเพลง การเดินทาง ของ ชาติ สุชาติ
ภาพ: What The Duck
การมาถึงของ THE TOYS ศิลปินที่ไม่มีขนบตายตัว
ด้วยแนวคิดหลักของค่ายเพลง What The Duck ที่ยึดถือคือการเป็นตัวเลือกของผู้ฟังที่ต้องการความแตกต่าง และเป็นพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีของได้มาแสดงศักยภาพและสร้างความสนุกกันอย่างเต็มที่ ในปี 2017 ค่ายเพลงนี้จึงได้ฤกษ์เปิดตัวศิลปินอย่าง THE TOYS หรือ ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน ผู้สร้างความแตกต่างในระดับปรากฏการณ์ให้กับวงการเพลงไทย
จากศิลปินอิสระที่ทำเพลงเอง การมาถึงของ THE TOYS ในฐานะศิลปินค่าย What The Duck นับเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงของวงการดนตรีไทยไปโดยสิ้นเชิง สายตาที่เฉียบแหลมของผู้บริหารที่มองเห็นศักยภาพทางดนตรีของเขา ตั้งแต่การเล่นกีตาร์ได้อย่างมีเอกลักษณ์และเก่งกาจ การสร้างดนตรีที่ไม่มีแบบแผน การร้องแรปรัวๆ ที่ยากจะร้องตามได้ ทั้งหมดนี้คือความหวือหวาใหม่ของดนตรีไทยกระแสหลัก และ THE TOYS ก็กลายเป็นไอคอนทางดนตรีคนใหม่ที่ครองใจคนได้ทั้งประเทศ
นอกจากนั้น การที่ What The Duck เลือกที่จะปล่อยให้ THE TOYS เป็นในแบบที่เขาเป็นในทุกครั้งเวลาปรากฏตัวบนสื่อ ทั้งสไตล์การแต่งตัว คาแรกเตอร์ที่ไม่มีใครเหมือน หรือบทสนทนาที่บางทีก็งง บางทีก็ไม่เข้าใจ จนสร้างการพูดถึงไปทั่ว นับเป็นอีกหนึ่งหมัดสำคัญที่ทำให้ชื่อของ THE TOYS เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้วยความไม่มีขนบตายตัว และคาดเดาไม่ได้
การมาเยือนของ F.HERO ที่เขย่าวงการ
What The Duck สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการอีกครั้งจากการได้ศิลปินแรปเปอร์อย่าง F.HERO หรือ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ มาร่วมงาน ซึ่งนับเป็นอีกโมเมนต์สำคัญที่สุดในวงการเพลงไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเขาได้ทำอัลบั้มแรกในชีวิตของเขาอย่าง INTO THE NEW ERA ในปี 2019 ที่จัดเต็มชนิดที่เรียกว่าไม่มีใครมุทะลุทำเพลงถึง 32 เพลง และมีศิลปินตบเท้ามาร่วมงานด้วยถึง 51 ชีวิต และทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์อีกกว่า 18 คน!
นับเป็นมหกรรมสร้างสรรค์ศิลปะทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งยังสร้างเพลงฮิตมากมายทั้ง เสือสิ้นลาย (Feat. P-Hot, YOUNGOHM, FYMME) ที่มียอดวิวสูงถึง 244 ล้านครั้งบน YouTube หรือเพลงอย่าง มีแค่เรา (Feat. LAZYLOXY, OG-ANIC) ที่มียอดวิวกว่า 193 ล้านครั้ง รวมถึง F.HERO ยังพาศิลปินเบอร์ใหญ่ๆ มาร่วมงานได้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น BamBam, หงา คาราวาน, อิ้งค์ วรันธร, Tattoo Colour, พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เป็นต้น
นอกจากอัลบั้ม INTO THE NEW ERA แล้ว เขายังมีผลงานเพลงอย่าง จำเก่ง ร่วมกับ Tilly Birds และเพลง จำเลยรัก ร่วมกับ Txrbo ที่เป็นเพลงฮิตระดับปรากฏการณ์หลัก 100 ล้านวิวอีกด้วย นับว่าเป็นก้าวกระโดดสำคัญอีกครั้งของ What The Duck และ F.HERO ที่สร้างทั้งผลงานที่ยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน
ภาพ: MILK!
MILK! การสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับศิลปินไทย
นอกเหนือจากค่ายหลักอย่าง What The Duck แล้ว ในปี 2020 ค่ายนี้ยังเปิดแพลตฟอร์มย่อยของตัวเองที่ชื่อว่า MILK! ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น Artist Service Platform กับการเฟ้นหาศิลปินอิสระที่น่าสนใจมาร่วมงาน โดยไม่ได้วางตัวเองเป็นฐานะของ ‘ค่ายเพลง’ แต่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการช่วยนำเสนอผลงาน พัฒนา สนับสนุน เพื่อให้ศิลปินเหล่านั้นเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง คงเอกลักษณ์และตัวตนของตัวเองให้ได้มากที่สุด
หนึ่งในสิ่งที่ 3 ผู้บริหารเล็งเห็นเหมือนกันกับการเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้คือ ศิลปินอิสระหลายๆ เบอร์นั้นมีฝีมือ แต่มีปัญหาร่วมคือ ‘ทุน’ ในการทำผลงาน รวมถึงวิธีคิด ขายงาน หรือพาเพลงของพวกเขาไปสู่หูผู้ฟังได้มากขึ้นอย่างไร ทั้งยังสนับสนุนพวกเขาในทุกๆ มิติ เพื่อต่อยอดศิลปินอิสระเหล่านี้ให้กลายเป็นศิลปินมืออาชีพได้ ซึ่งในยุคแรกนั้นก็มีศิลปินอย่าง Loserpop, Quicksand Bed และ Varis หรือในยุคถัดๆ มาก็มีศิลปินอย่าง Aimzillow, minekuk, H I N A N O, Gencry, Fluffypak, mute. หรือ PURPEECH ก็ตาม ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นศิลปินที่มีชื่อเป็นที่รู้จักในวงการเพลงปัจจุบัน
เส้นทางของศิลปินอิสระจากแพลตฟอร์มย่อยก็คล้ายๆ กับการที่เป็นใบเบิกทางให้พวกเขาได้ลองทำงานอาชีพ ‘ศิลปิน’ อย่างจริงจัง เรียนรู้เพื่อนำไปปรับใช้กับการทำงานของตัวเอง และมีศิลปินหลายๆ เบอร์ที่ได้รับการทาบทามเพื่อทำงานต่อร่วมกันในค่ายหลักอย่าง What The Duck เช่น Uncle Ben หรือ Loserpop ก็ตาม ซึ่งในปีนี้เองค่าย MILK! ก็กำลังจะพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นค่ายเพลงอย่างเต็มตัวแล้ว
ภาพ: What The Duck
BOWKYLION ข้อพิสูจน์ความเชื่อที่ค่ายมีให้ศิลปิน
BOWKYLION คือหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดจาก What The Duck ของการผลิตศิลปินเข้าสู่อุตสาหกรรมเพลงไทย ศิลปินหญิงเดี่ยวแห่งยุคที่แฟนเพลงปวารณาเธอให้เป็น ‘ตัวมัม’ คนใหม่ไปแล้วอย่างแท้จริง ด้วยแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์กับเพลงป๊อปอาร์แอนด์บี เนื้อหาชวนเศร้าที่กลั่นกรองออกมาจากชีวิตจริงของเธอ จนปัจจุบันเพลงอย่าง ‘วาดไว้ (recall)’ กลายเป็นเพลงระดับ 100 ล้านวิวเพลงใหม่ของบ้านเรา
หลังจากที่ BOWKYLION เติบโตจากเส้นทางสายดนตรีมาตั้งแต่สมัยมัธยม เริ่มคัฟเวอร์เพลงของศิลปินคนอื่นๆ จนเริ่มมีชื่อเสียง และเดินทางเข้าสู่บ้าน What The Duck เธอคือผู้หญิงที่ไม่เคยหยุดผลิตผลงาน และค่อยๆ เก็บหอมรอมริบชื่อเสียงของเธอมาเรื่อยๆ จนถึงเพลง ลงใจ เมื่อปี 2019 ที่เป็นสัญญาณแรกของความฮิต ถึงขนาดส่งให้เธอเป็นศิลปินหญิงที่มีคนฟังสูงสุดบน Spotify ไทยในปี 2020 ก่อนจะเริ่มสร้างเพลงฮิตอื่นๆ ให้ตามมา
มีผลงานที่ดีคงไม่พอให้ได้รับความสนใจจากแฟนๆ เพราะช่วงเวลาที่น่าสนใจมากๆ ของเธอคือการที่ค่าย What The Duck เริ่มปรับภาพลักษณ์ของ BOWKYLION ช่วงเพลง บานปลาย (best wishes) ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 หรือเพลง ทราบแล้วเปลี่ยน (attention please) ในช่วงต้นปี 2022 คือการตัดสินใจครั้งสำคัญของค่ายที่อยากเห็นโบกี้เป็นศิลปินที่สามารถขายตัวตน คาแรกเตอร์ และงานเพลงไปพร้อมๆ กันได้ เราจึงได้เห็นโบกี้ในมุมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพียงศิลปิน แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่แฝงเสน่ห์ของตัวเองไว้อีกมากมาย ทั้งความขี้เล่น ความสวย หรือความเซ็กซี่ที่แฟนเพลงเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นเธอในมุมเหล่านี้เมื่อปรากฏตัวสู่สาธารณชนในโอกาสต่างๆ
ภาพ: What The Duck
กรณีของ BOWKYLION นี้ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา What The Duck ยึดมั่นความเชื่อที่ว่าศิลปินเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน ค่ายจึงเชื่อมั่นในตัวตนและความสามารถของศิลปิน 100% และค่ายเพลงจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนที่ดี เพื่อส่งให้ศิลปินก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรง การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ครั้งนี้ส่งให้เธอเป็นศิลปินหญิงแถวหน้าของวงการไปเรียบร้อยแล้ว และยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ๆ มากมายทั้ง Gucci Beauty, MCM หรือผลิตภัณฑ์อย่าง NESCAFÉ, Bata หรือ est ก็ตาม
วง Mirrr / ภาพ: What The Duck
ศูนย์รวมศิลปินมากสไตล์ ที่ได้รับความสนใจจากแฟนเพลง
นอกเหนือจาก THE TOYS แล้ว ปัจจุบัน What The Duck ดูแลศิลปินอยู่ทั้งหมด 29 เบอร์ด้วยกัน มีศิลปินหลากสไตล์รวมตัวกันอยู่ และล้วนเป็นศิลปินที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน มีสไตล์ดนตรีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างดี
ตั้งแต่ศิลปินอินดี้คู่หูรุ่นใหม่อย่าง Whal & Dolph (วาฬ แอนด์ ดอล์ฟ) ที่ปลุกกระแสอินดี้ให้กลับมาครองตลาดเพลงไทย พร้อมขึ้นแท่นวงดนตรีอันดับ 1 ที่ครองใจคนฟัง Gen Z ได้ หรือการปั้นศิลปินหญิงอินเตอร์ Valentina Ploy (วาเลนติน่า พลอย) ก็นับว่าเป็นอีกผลงานอันยอดเยี่ยมของ What The Duck ที่อยากขยายตลาดเพลงสู่ระดับ Global มากยิ่งขึ้น ด้วยจำนวนยอดสตรีมที่สูงกว่า 20 ล้านครั้งตั้งแต่เพลงแรก หรืออย่างล่าสุดชื่อของ De Flamingo เองก็ได้รับการพูดถึงในวงกว้างจากการร่วมแสดงคอนเสิร์ตในฐานะศิลปินแบ็กอัพให้กับ แจ็คสัน หวัง ทั้งทัวร์ในประเทศไทย รวมไปถึงเวิลด์ทัวร์ด้วย!
YourMOOD / ภาพ: What The Duck
นอกจากนี้ยังมี Mirrr และศิลปินอย่าง YourMOOD หรือ บอย-สุรัตน์ รุ่งพิทธิกุล ศิลปินภายใต้สังกัดย่อย WHOOP Music ของ THE TOYS ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน จากปรากฏการณ์เพลง ‘ลาก่อน’ ที่ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นอีกคลื่นลูกใหม่ในวงการเพลงที่น่าจับตามอง ไม่เพียงรูปลักษณ์ที่น่ามอง แต่การแสดงบนเวทีเองก็มีความฉูดฉาดอย่างมาก และเขาอาจเป็นศิลปินแถวหน้าคนต่อไปจากค่ายนี้ก็ย่อมเป็นไปได้