×

CRACKED: ทำความรู้จัก Fujii Kaze ศิลปินผู้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการ J-Pop

20.02.2023
  • LOADING...
Fujii Kaze

Fujii Kaze คือเจ้าของเพลง Matsuri เพลงฮิตระดับปรากฏการณ์ในวงการเพลง J-Pop ณ ขณะนี้ ถ้าใครเคยผ่านหูผ่านตาไถฟีด TikTok แล้วบังเอิญเจอคนใช้ฟิลเตอร์หนวดและเต้นท่าโบกไม้โบกมือพร้อมเพลงกรูฟดี นั่นแหละเพลงของเขา!

 

แต่ความน่าสนใจอาจจะไม่ใช่เพียงแค่มีเพลงดังวูบเดียวใน TikTok แต่ Fujii Kaze กำลังสร้างฐานแฟนและแสดงศักยภาพทางดนตรีของเขาให้เป็นที่รักของผู้ฟังในประเทศญี่ปุ่นและแฟนเพลงทั่วโลก จนแทบจะเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการ J-Pop ก็ว่าได้

 

คำถามสำคัญก็คือ เขาทำได้อย่างไร? THE STANDARD POP จะชวนมา CRACKED ทุกเบื้องหลังไปพร้อมๆ กัน

 

 

Fujii Kaze เป็นใครมาจากไหน?

Fujii Kaze (ฟูจิอิ คาเสะ) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1997 ในโอคายามะ ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 25 ปี เขาเติบโตมาพร้อมกับการฝึกฝนเปียโนคลาสสิกที่ได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อ เริ่มเล่นและฝึกฝนดนตรีตั้งแต่อายุ 3 ขวบ มีจุดเด่นคือเป็นเด็กที่มีรสนิยมการฟังเพลงหลากหลายแนวมาก ทั้งเพลงแจ๊ส เพลงคลาสสิก เพลงป๊อป รวมไปถึงเพลงเอ็งกะ (Enka) เพลงที่ผสมผสานเมโลดีดั้งเดิมของญี่ปุ่นร่วมกับดนตรีตะวันตก

 

จุดเริ่มต้นของศิลปินที่ชื่อ Fujii Kaze คือการลงผลงานเพลงคัฟเวอร์ใน YouTube ทั้งเพลงคลาสสิกของญี่ปุ่น รวมถึงเพลงสากลฮิตๆ อื่นๆ ทั้งเพลง Wildest Dreams ของ Taylor Swift, Rock With You ของ Michael Jackson, New Rules ของ Dua Lipa เป็นต้น และทำมันออกมาให้เป็นเวอร์ชันใหม่ในแบบของเขา แม้ในช่วงปี 2014 เขาจะเฟดตัวเองจากการทำคอนเทนต์ดนตรีบน YouTube ไปโฟกัสกับการเรียน ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปี 2017

 

ลองชมดูได้ที่นี่ 

 

 

เช่นเดียวกับศิลปินหลายๆ คนในยุคนี้ที่มีเพลงคัฟเวอร์เป็นใบเบิกทางให้มีโอกาสก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรี และด้วยความสามารถที่น่าจับตามอง บวกกับเสน่ห์ของเขา ก็ทำให้เขาได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอย่าง Hehn Records ภายใต้ Universal Music Japan และเริ่มต้นทำงานในฐานะศิลปินอย่างเต็มตัว และปล่อยอัลบั้มแรกออกมาในเดือนพฤษภาคม 2020 ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาถูกกลืนหายไป เพราะอัลบั้ม HELP EVER HURT NEVER สามารถทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Japan ได้

 

นอกจากการเดบิวต์ตัวตนของ Fujii Kaze เข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรี เขายังได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากสื่อและแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ได้รับการจัดลิสต์ให้เป็น 1 ใน 10 ศิลปิน Early Noise 2020 จาก Spotify Japan ซึ่งเป็นลิสต์ที่จะจัดศิลปินที่น่าจับตามองในปีนั้นๆ หรือการถูกจัดเป็น Voices of the Future จากนิตยสาร GQ ในปี 2021 ที่ศิลปินอย่าง MILLI จากประเทศไทยเองก็เคยถูกจัดให้อยู่ในลิสต์นี้เช่นกัน

 

 

สำหรับ Fujii เพลงคือความสำคัญแรกสุด

แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้ผู้คนชอบเพลงของ Fujii Kaze และทำให้เขาประสบความสำเร็จ?

 

หากมองเนื้องานจะพบว่าเขามอบสุนทรียะทางดนตรีที่น่าสนใจ ร่วมสมัย และยังคงไว้ซึ่งท่วงทำนองที่มีเสน่ห์ของเพลงญี่ปุ่นเอาไว้ เป็นส่วนผสมที่หาได้ไม่มากนักในอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่นในปัจจุบัน

 

Matsuo Kiyoshi (มัตซูโอะ คิโยชิ) โปรดิวเซอร์ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นเคยให้ความเห็นส่วนตัวกับงานเพลงและตัวตนของ Fujii Kaze ไว้ว่า “เขามีเซนส์ของความเป็นอาร์แอนด์บี แจ๊ส และคลาสสิก ซึ่งเขาทำมันออกมาได้สมดุลมากๆ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมเพลงของเขาถึงได้โด่งดัง

 

“ถึงแม้จะคัฟเวอร์เพลงสากลตะวันตกเป็นจำนวนมาก แต่ดนตรีในอัลบั้มของเขาก็ยังคงความเป็นญี่ปุ่นไว้ รวมไปถึงวิธีการร้องแบบมาตรฐานเพลงป๊อปญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์ในเมโลดีและสำเนียงเฉพาะตัวที่เขาสามารถผสมผสานกับเพลงตะวันตกได้อย่างลงตัว”

 

เช่นความน่าสนใจในตัวเพลงตั้งแต่ซิงเกิลเปิดตัวอย่าง Nan-Nan ที่หยิบเอาเพลงญี่ปุ่นดั้งเดิมและคำสแลงมารวมกันเป็นเนื้อร้อง ทั้งยังมีเนื้อเพลงภาษาอังกฤษรวมอยู่ด้วยในเพลงของเขา สื่อสารดนตรีออกไปในแบบที่ไม่ได้มองแค่ตลาดเพลงของตัวเองเท่านั้น

 

“I saw the angel in the marble and carved until I set him free”

 

Fujii Kaze ใช้หนึ่งในคำกล่าวของ Michelangelo จิตรกร ช่างแกะสลัก และสถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่อดังของโลก เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน บ่งบอกให้เห็นถึงความประณีตในการทำงานเพลงของเขา ราวกับการแกะสลักอันทรงพลังและสวยงามของ Michelangelo นั่นเอง ซึ่ง Fujii Kaze เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ไว้กับนิตยสาร GQ Japan และเขายังบอกอีกว่า “เพลงต้องมาก่อนทุกสิ่งอย่างเป็นลำดับแรกเสมอ”

 

 

นอกจากนี้ Matsuo Kiyoshi ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จทางด้านดนตรีและตัวตนของ Fujii Kaze อีกว่า สิ่งที่เขานำเสนอออกมานั้นมันน่าตื่นเต้นและไร้ขีดจำกัดอย่างมาก ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนใจในตัวเขาว่าทำไมเขาถึงน่ามอง หรือเล่นดนตรีได้เก่งกาจขนาดนั้นในวัยเพียงเท่านี้

 

ปัจจุบัน Fujii Kaze มีเพลงฮิตอยู่มากมาย โดยเฉพาะเพลง Matsuri ที่ปัจจุบันมียอดผู้ฟังอยู่เกือบ 30 ล้านครั้งบน YouTube และ YouTube Music ส่วนใน Spotify ก็มียอดฟังไปแล้วทั่วโลกกว่า 32.7 ล้านครั้ง ยังไม่นับปรากฏการณ์ฟิลเตอร์หนวดและท่าเต้นโบกมือไปมาบน TikTok อีกนับไม่ถ้วน

 

ส่วนเพลงฮิตอีกเพลงอย่าง Shinunoga E-Wa ก็มีผู้ฟังบน Spotify กว่า 249.6 ล้านครั้ง และติดชาร์ตในหลายประเทศด้วย นอกจากนี้อัลบั้มทั้ง 2 ของเขาอย่าง HELP EVER HURT NEVER (2020) และ LOVE ALL SERVE ALL (2022) ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีทั้งยอดขายและยอดผู้ฟัง

 

 

ผู้เปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่นด้วยโชว์ที่เรียบง่าย

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือด้วยความที่อัลบั้มเดบิวต์ของเขา HELP EVER HURT NEVER นั้นเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดในเดือนพฤษภาคม 2020 พอดิบพอดี ทำให้ถึงแม้อัลบั้มของเขาจะเดบิวต์ขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Japan แต่เขาก็ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวตามสื่อเท่าไรนัก

 

ซึ่งหนึ่งในอีเวนต์สำคัญที่ทำให้ชื่อของ Fujii Kaze เป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นคือการแสดงสดออนไลน์ที่ชื่อ Free Live 2021 ที่นิตยสาร Billboard Japan ถึงกับเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นอนาคตของการแสดงดนตรีสดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว!

 

Fujii Kaze ทำการแสดงสดแบบเดี่ยวกับเปียโนหลังใหญ่กลางสนาม Nissan Stadium ที่มีความจุกว่า 72,000 ที่นั่ง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีแต่ศิลปินระดับ A-List เท่านั้นที่จะทำโชว์ที่นี่ แต่ผิดกับศิลปินหน้าใหม่คนนี้ที่เพิ่งเดบิวต์มาได้ไม่ถึง 2 ปี แต่เขาเลือกจะทำโชว์ที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่าย มีเพียงเขา ไมโครโฟน และเปียโน เล่นเพลงของเขาไปเรื่อยๆ มีหยุดพูดคุยบ้าง หรือลงไปทิ้งตัวบนสนามด้วยท่าทีสบายๆ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ชมกว่า 9.9 ล้านครั้ง

 

ความน่าสนใจของวิธีคิดการทำ Virtual Concert ในสถานการณ์โควิดของ Fujii Kaze นั้นน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นการขยายฐานแฟนใหม่ๆ ของเขาผ่านการแสดงสดแบบฟรีๆ และมันสามารถสร้างรายได้กลับสู่เขาได้ในสักวันหนึ่ง แม้ไม่ใช่รายได้ที่เข้ามามากมายเป็นกอบเป็นกำในเร็ววัน แต่มันเหมือนการหว่านเมล็ดพันธุ์ไว้รอการเติบโต คนที่ไม่เคยฟังเพลงเขาก็มีโอกาสจะได้ชมสิ่งนี้ หรือวันหนึ่งคนที่เพิ่งเข้ามารู้จักเขาก็อาจจะมีโอกาสกลับมาดูสิ่งนี้ ก็นับเป็นการสร้างรายได้ให้กับศิลปินได้เช่นกัน

 

 

Fujii Kaze Free Live 2021 มีผู้ชมกว่า 180,000 คน และยังเป็นโชว์อันดับ 1 ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในโลกบน Twitter อีกด้วย นอกจากนี้ตัวเลขของการขายอัลบั้ม HELP EVER HURT NEVER ยังสูงขึ้นถึง 7 เท่าในช่วงที่การแสดงสดนี้ออกฉาย และมียอดดาวน์โหลดบนสตรีมมิงต่างๆ เพิ่มขึ้นถึง 249% อีกด้วย

 

นอกจากวิธีคิดทางด้านการสร้างรายได้ในสถานการณ์โควิดที่น่าสนใจแล้ว ยังมีแนวคิดอื่นๆ สอดแทรกอยู่ในโชว์นี้เช่นกัน โดยเฉพาะการใช้ชื่อว่า Free ที่นอกเหนือจะบอกกลายๆ ว่าคอนเสิร์ตนี้ดูฟรีแล้ว ยังเป็นเสมือนการบอกกับผู้ชมว่าให้ปล่อยใจสบายๆ มีความสุขไปกับเสียงเพลงของเขาในช่วงที่ทุกอย่างกำลังเครียดและเข้มงวดจากการล็อกดาวน์ในช่วงโควิดนั่นเอง

 

รวมไปถึงในช่วงโชว์ที่เขาได้บอกกับทีมงานว่าเขาจะเลือกพูดคั่นระหว่างโชว์ด้วยภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ เพราะโชว์นี้จะสตรีมบนโลกออนไลน์ จึงอยากให้ผู้ชมทั่วโลกได้มีโอกาสเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อสารด้วย ซึ่งเป็นแนวคิดที่อยากจะพาดนตรีของเขาให้ไปได้ไกลกว่าแค่ตลาดในประเทศ

 

ลองชมโชว์ของเขาได้ที่นี่

 

 

สัญญาณความแมสเริ่มต้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณรู้หรือไม่ว่าสัญญาณความแมสแรกของ Fujii Kaze เกิดขึ้นในแถบบ้านเรานี่แหละ! โดยเพลงแรกของเขาที่เดินทางมาถึงหูคนฟังในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือเพลง Shinunoga E-Wa เมื่อช่วงกลางปี 2022

 

โดยเริ่มฮิตจากการนำไปประกอบในคลิปวิดีโอ TikTok ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 4.2 แสนวิดีโอทั่วโลก และสิ่งนี้ส่งผลดีไปถึงสตรีมมิงแพลตฟอร์มอย่าง Spotify ที่ทำให้ยอดผู้ฟังพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยและเวียดนาม

 

โดยในบ้านเรา เพลงนี้ของเขาเคยขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Viral 50 Thailand บน Spotify มาแล้วในช่วงเดือนสิงหาคม 2022 และเคยไปไกลถึงอันดับ 3 ของชาร์ต Viral 50 ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ทั้งๆ ที่ตัวเพลงจริงๆ ถูกปล่อยมาตั้งแต่ปี 2020

 

ความสำเร็จของ Fujii Kaze กลายเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่นกับการที่ศิลปินไปไกลในระดับโลกได้ เหมือนเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จใหม่บนออนไลน์แพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เพียงแค่ปล่อยเพลงลงบน YouTube พร้อมมิวสิกวิดีโอแล้วจบไป ซึ่งศิลปินและค่ายเพลงอื่นๆ ในญี่ปุ่นเริ่มเข้าใจตรงนี้มากขึ้น และค่อนข้างใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมเพลงไทยบางกลุ่มที่เลือกใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นใบเบิกทางความสำเร็จ

 

 

ศิลปินผู้อาจเป็นความสำเร็จสูงสุดของ J-Pop ยุคใหม่

อีกหนึ่งข้อสังเกตจาก Matsuo Kiyoshi ที่มองไปถึงขั้นว่า Fujii Kaze อาจเป็นความสำเร็จสูงสุดของ J-Pop ในยุคปัจจุบันนับตั้งแต่การมีอยู่ของ Utada Hikaru

 

ซึ่งความ ‘สูงสุด’ ที่ว่าอาจไม่ใช่ในแง่ของเรื่องยอดขายหรือชื่อเสียง แต่หมายถึงความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่เกิดขึ้นจากตัว Fujii Kaze ในฐานะศิลปินที่ทำให้นึกถึง Utada Hikaru ขึ้นมาได้ เช่น การเติบโตจากครอบครัวศิลปิน ได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ และมีแรงบันดาลใจทางด้านดนตรีตะวันตกเข้ามาร่วมด้วย

 

และศิลปินทั้งสองคนนี้ล้วนมีการสร้างสมดุลที่น่าฟังระหว่างดนตรีร่วมสมัยและความดั้งเดิมคลาสสิกของดนตรีญี่ปุ่น การนำเสนอตัวเอง ดนตรี และวิธีการเขียนเนื้อเพลงที่ช่างสวยงาม มีพรสวรรค์รอบด้าน

 

ทั้งนี้ แม้ตัวเลขของความสำเร็จทางยอดขายเขาอาจจะยังไปไม่ถึงระดับที่ Utada Hikaru เคยทำได้ แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลขของอัลบั้มเหล่านั้นไม่ได้สำคัญอะไรมากนักในยุคนี้อีกแล้ว ในเมื่อเพลงของเขากระจัดกระจายในสตรีมมิงไปสู่หูผู้ฟังได้ทั่วโลก และวิธีคิดในการทำงานของเขาก็สร้างแรงกระเพื่อมให้กับอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่นอย่างมาก

 

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางหรือโมเดลการสร้างผลงานที่ทำให้ศิลปินคนอื่นๆ ในวงการมองความสำเร็จของเขาเป็นต้นแบบ และอุตสาหกรรมเพลงญี่ปุ่นอาจเปิดกว้าง กลับมาลุยตีตลาดเพลงนอกบ้านอีกครั้ง และความสำเร็จของศิลปินหนุ่มเจ้าของเพลง Matsuri อาจทำให้ทุกอย่างของวงการเพลงญี่ปุ่นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปนับจากนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X