เกือบ 10 ปีแล้วที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจที่พักอาศัย ซึ่งใช้ความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของศูนย์การค้าในการต่อยอดมาสู่ธุรกิจใหม่ ภายใต้ชื่อ Central Pattana Residence
“เราลงทุนทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ขยายโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมกว่า 18 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 35 โครงการด้วยกัน” วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เผยแผน ‘ธุรกิจ Residential’ ของ CPN หมายมั่นปั้นมือที่จะขยายอีก 50 โครงการ ภายใน 5 ปี
- ทำเลเดิมหมดสัญญาเช่า! ‘จ๊อดแฟร์’ เตรียมย้ายมาอยู่ติด MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ มกราคม 2567 นี้
- คอนโดมิเนียม ‘ฟีล ภูเก็ต’ หนึ่งในโครงการลงทุนมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาทของ CPN ในภูเก็ต
ปัจจุบันภายใต้พอร์ตของ Central Pattana Residence มีทั้งสิ้น 7 แบรนด์หลัก ได้แก่ Escent เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลเดียวกับศูนย์การค้า ส่วน Phyll เป็นคอนโดมิเนียมใกล้ๆ เดินทางไม่ไกลมาก
Escent Town และ Escent Avenue สำหรับทาวน์เฮาส์ ขณะที่บ้านเดี่ยวจะอยู่ในชื่อแบรนด์ Baan Niyham, Baan Ninya และ Baan Nirati
สำหรับ Baan Ninya ถือเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวล่าสุดที่มีราคาเริ่มต้นประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยจะเปิดใน 3 ทำเลคือ พระราม 2, อุทยาน-อักษะ และเอกชัย-วงแหวน ซึ่งจะเปิดตัวช่วงปลายปี มีมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท
อย่างที่บอกว่าการที่ทำธุรกิจศูนย์การค้ามาก่อนทำให้ CPN มีแต้มต่อเมื่อเข้าไปสู่น่านน้ำใหม่ ซึ่ง กรี เดชชัย President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ได้ยืนยันเรื่องนี้ผ่านคำพูดที่ว่า “เนื่องจากเรามีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมอุปสงค์ในประเทศทั่วประเทศจากธุรกิจค้าปลีกของเรา คอนโดหลายโครงการที่เราเปิดตัวในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเชิงบวก”
จากทั้งหมด 35 โครงการใน 18 จังหวัด ขายหมดแล้ว 12 โครงการ หรือกว่า 70% ด้วยกัน ทำให้ CPN มั่นใจในธุรกิจนี้จึงวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการอีก 50 แห่งในระหว่างปี 2567-2569
แน่นอนว่ารายได้ย่อมเติบโตตามไปด้วย ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่าธุรกิจที่พักอาศัยจะมีรายได้ 6 พันล้านบาท, 8 พันล้านบาท และ 1 หมื่นพันล้านบาทในปี 2567-2569 ตามลำดับ รวมกันเป็นตัวเลขกว่า 2.4 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือกระแสของคนรุ่นใหม่ยังเน้นไปที่การเช่ามากกว่าการเป็นเจ้าของบ้านทำให้ CPN กำลังศึกษาธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในทำเลบางแห่งซึ่งที่ดินหายากแล้ว
ลึกลงไปการเช่าบ้านเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในรุ่นใหม่ เมื่อเทียบกับการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งมีเหตุผลหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นในการย้ายถิ่นฐาน ที่ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขายบ้านหรือการจ่ายค่าผ่อนชำระที่ยังไม่เสร็จ
ขณะเดียวกัน ราคาบ้านในปัจจุบันมีราคาสูงมาก และหลายคนรู้สึกว่าการจะเริ่มการผ่อนชำระบ้านนั้นเป็นภาระท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งการเช่าบ้านส่วนใหญ่จะต้องการค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการซื้อบ้านในระยะสั้น ทำให้รุ่นใหม่สามารถใช้เงินสำหรับการลงทุนหรือการทำสิ่งอื่นๆ ที่ต้องการ
CPN ยังไม่บอกชัดเจนว่า ทำเลไหนบ้างที่จะถูกทำเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ แต่หนึ่งในทำเลที่น่าจับตามองคือ พระราม 9 ซึ่งปัจจุบันให้ ‘จ๊อดแฟร์’ ไนต์มาร์เก็ตชื่อดังหลังเซ็นทรัล พระราม 9 เช่าอยู่และจะหมดสัญญาสิ้นปีนี้ ซึ่งทำเลแห่งนี้ถือเป็นทำเลที่ถูกคาดหวังเป็น CBD ในอนาคต
อีกแห่งคือคอนโดมิเนียม ‘ฟีล ภูเก็ต’ (Phyll Phuket) ซึ่งมีการซื้อที่ดิน 20 ไร่เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยในเฟสแรกใช้ที่ดิน 6 ไร่สำหรับการพัฒนา ส่วนเฟสที่เหลืออีก 2 เฟสจะทยอยสร้างในอีก 5 ปี ส่วนการทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อาจอยู่ในการทำเฟสที่ 3
