นอกเหนือจากศูนย์การค้าที่ถือเป็นธุรกิจหลักและสร้างชื่อให้กับเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN มาโดยตลอด แต่จริงๆ แล้วธุรกิจภายใต้เครือมีมากกว่านั้น และธุรกิจ Residence ที่ทำมาราว 8 ปี คือธุรกิจที่ปัจจุบันทำรายได้เป็นอันดับ 2 และยังทำกำไรเติบโตสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
“ในปีนี้เราจะมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดรวม 43 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง ครอบคลุม 20 จังหวัด” วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าว
เมื่อเจาะลึกเข้าไป ฐานลูกค้าของธุรกิจ Residence จะมีรายได้ราว 35,000-36,000 บาทต่อเดือน มักจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาเฉลี่ย 2.5 ล้านบาท โดยลูกค้ากว่า 60% เป็นลูกค้าที่โอนสด เพราะ “ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคหบดีอยู่ในตัวเมืองกว่า 50% ที่เหลือมาจากพื้นที่รอบนอก โดย 80% จะเป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 มีเพียง 20% เท่านั้นที่ซื้อเป็นหลังแรก” กรี เดชชัย President Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา อธิบาย
ที่เป็นอย่างนั้นเพราะธุรกิจ Residence ของ CPN เมื่อมองดีๆ มักจะเห็นว่าไม่เหมือนกับดีเวลอปเปอร์เจ้าอื่นๆ ตรงที่รายได้หลักส่วนใหญ่มาจากคอนโดมิเนียม 65% ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ ESCENT ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงที่มักอยู่ติดหรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบนทำเลศักยภาพทั่วประเทศ โดยถือเป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมียมในจังหวัด
กรีขยายความว่า ธุรกิจ Residence เพิ่งมาทำโครงการบ้านที่เป็นบ้านในกรุงเทพฯ ช่วงปีที่ 3-4 นี้เอง ทำให้ปัจจุบันมีโครงการในกรุงเทพฯ 6-7 แห่ง และต่างจังหวัด 3 โครงการ ในแง่ของ Backlog อยู่ราว 300-400 หลัง มีไม่เยอะ เพราะจะเป็นบ้านที่สร้างเสร็จและขาย ส่วนคอนโดมีสะสม 5,000 กว่ายูนิตด้วยกัน
ปีนี้เปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง 10 โครงการ ครบทั้งแนวราบและแนวสูง มูลค่ารวม 13,430 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการ ไฮไลต์คือแบรนด์ใหม่ ‘บ้านนิรดา’ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตธุรกิจ เปิดตัวไปแล้วที่พระราม 2 และอุทยาน-อักษะ ปีนี้เปิดตัวทำเลใหม่คือบ้านนิรดา เอกชัย-วงแหวน
โครงการแนวสูงเปิดตัวทั้งหมด 7 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์คอนโด ESCENT ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธง เปิดไปแล้วที่นครสวรรค์และนครปฐม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยในช่วงเปิดตัวมียอดจองสูงถึง 80-90% ภายใน 4 วัน และตอนนี้ปิดการขายแล้วทั้งสองทำเล และกำลังจะเปิด ESCENT Bangna ที่อยู่ใกล้กับเซ็นทรัล บางนา
นอกจากนี้ยังเปิดคอนโด ESCENT อีกหลายทำเล ได้แก่ นครศรีธรรมราชและภูเก็ต รวมถึงเปิดเฟสสองเพิ่มที่หาดใหญ่และอุบลราชธานี
“ที่ผ่านมาธุรกิจ Residence มีบริษัทแม่เข้ามาซัพพอร์ตเรื่องเงินลงทุน แต่ปีนี้เป็นต้นไปอาจจะไม่ต้องแล้ว เพราะกระแสเงินสดเราเริ่มเพียงพอแล้ว” กรีกล่าว พร้อมเสริมว่า “ตอนเริ่มทำธุรกิจปีแรกมีรายได้ 2,000 ล้านบาท แต่ปีนี้ตั้งเป้า 7,000 ล้านบาท และโตต่อเนื่อง 20% ในทุกๆ ปี”