‘เซ็นทรัลพัฒนา’ เดินหน้าต่อสัญญาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล พระราม 2 โดยเชื่อมั่นศักยภาพทรัพย์สินและโครงสร้างการต่อสัญญาสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว พร้อมเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ วันที่ 31 กรกฎาคมนี้
“สำหรับการต่อสัญญาโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล พระราม 2 ทั้งสองโครงการเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากอยู่ในทำเลใจกลางของกรุงเทพฯ โซนตะวันตกและกรุงเทพฯ โซนใต้ ซึ่งเป็นย่านที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูงและมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าจะได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยทรัสต์” นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง ของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN
ยิ่งไปกว่านั้น หลังปรับโฉมและขยายพื้นที่เซ็นทรัล พระราม 2 แล้วเสร็จในปี 2564 ก็มีร้านค้าและทราฟฟิกเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เซ็นทรัลพัฒนาไตรมาส 1 รายได้โต 27% ทำกำไรสุทธิ 3,246 ล้านบาท เดินหน้าเปิดศูนย์การค้า-โรงแรมอีก 200 โครงการภายใน 5 ปี
- ชาวราชพฤกษ์เตรียมพร้อม! CPN ยืนยัน เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ มาแน่ปลายปีนี้ พบยอดเช่าพื้นที่ล้นหลามเกือบเต็ม 100% แล้ว
- CPN ทุ่ม 1.4 หมื่นล้านบาท ลงทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ เซ็นทรัลนครสวรรค์ และ เซ็นทรัลนครปฐม เคาะเปิดไตรมาส 1-2 ปี 2567
เช่นเดียวกับเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ที่เตรียมปรับโฉมพื้นที่ใหม่ในปี 2567-2568 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับภาพลักษณ์ Positioning และ Uplift Brand ร้านค้า เพื่อรองรับลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนาในฐานะผู้บริหารทรัพย์สิน ยังคงมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินในกองทรัสต์และในฐานะสปอนเซอร์ พร้อมผลักดันให้การระดมทุนประสบความสำเร็จโดยการเพิ่มสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์จากร้อยละ 30 เป็นประมาณร้อยละ 40 คิดเป็นเงินลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนสำหรับการลงทุนครั้งนี้
ด้าน ปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ CPNREIT กล่าวต่อไปว่า จากการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนเพื่อให้เข้าใจถึงแผนการต่อสัญญาสิทธิการเช่าโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล พระราม 2 และประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับทั้งระยะสั้นและระยะยาว พบว่านักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแผนดังกล่าว เนื่องจากเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล พระราม 2 เป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่จะสร้างการเติบโตของรายได้ให้กับกองทรัสต์ได้อย่างต่อเนื่อง
โดยเงื่อนไขการต่อสัญญามีความเหมาะสม ประกอบด้วย 1. มูลค่าการต่อสัญญาอยู่ในระดับเดียวกับราคาประเมินของผู้ประเมินอิสระ ตามด้วย 2. ระยะเวลาสิทธิการเช่านานเพียงพอที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับกองทรัสต์และผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้ในระยะยาว และ 3. โครงสร้างและขนาดการระดมทุนสอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน
ที่สำคัญ CPNREIT สามารถเจรจามูลค่าการลงทุนสำหรับการต่อสัญญาในอนาคตของทั้ง 2 โครงการ เมื่อมีความพร้อม และ CPN มีความตั้งใจที่จะลงทุนใน CPNREIT และพร้อมสนับสนุนให้การดำเนินการครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ โดยผู้จัดการกองทรัสต์เตรียมเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการต่อสัญญาดังกล่าว