×

อนุ กมธ.แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ เตรียมถกมูลค่าเสียหาย คาดรวมกว่าหมื่นล้าน เตรียมเชิญ CPF รอบ 3

โดย THE STANDARD TEAM
01.08.2024
  • LOADING...

วันนี้ (1 สิงหาคม) ที่รัฐสภา ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย แถลงก่อนการประชุมในวันนี้ว่า ได้เชิญสำนักงานอัยการสูงสุด, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อที่จะหารือเกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดจากปัญหาปลาหมอคางดำระบาด โดยทั้ง 3 หน่วยงานส่งตัวแทนมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่จะดำเนินการเอาผิดได้ ขณะที่ วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้าร่วม

 

ณัฐชากล่าวว่า สิ่งที่เห็นวันนี้ต้องเดินหน้าเอาผิดกับต้นตอสาเหตุให้ได้ ซึ่งวันนี้จะได้ข้อสรุปข้อกฎหมายทั้งหมดที่คณะอนุกรรมาธิการฯ จะส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ว่า กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนการประเมินค่าเสียหายมีตัวอย่างชัดเจนแค่ตำบลเดียว คาดว่าประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี แต่วันนี้ระบาดไป 17 จังหวัดที่ยังไม่ได้ประเมิน ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีมูลค่าเสียหายต่างกันไป หากรวมแล้วอาจจะถึงหมื่นล้านบาท

 

ณัฐชายังกล่าวถึงกรณีบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ที่จะฟ้องสื่อมวลชนและมูลนิธิที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า สถานที่ที่จะรับฟังปัญหาข้อเท็จจริงได้ดีที่สุดคือสภาผู้แทนราษฎร ทุกปัญหาและทุกประเด็นในสังคมที่เกิดข้อเคลือบแคลงสงสัยออกมาจากการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ชุดนี้ หากต้องการที่จะโต้แย้งและนำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณะเพื่อไม่ให้กระจายคลาดเคลื่อน ควรที่จะเข้ามาให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งทางหน่วยงานภาครัฐยินดีที่จะนำข้อมูลที่ภาครัฐและเอกชนมีมาเปรียบเทียบกัน เพื่อที่จะคลายความสงสัยให้กับประชาชนได้

 

“การแถลงข่าวของเอกชนลงท้ายทุกครั้งว่ายินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ แต่เราขอความร่วมมือไปแล้ว 2 ครั้ง ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ดังนั้นความยินดีดังกล่าวนั้นเรายังไม่ได้รับ หากท่านยินดีให้การสนับสนุนข้อมูลกับหน่วยงานของภาครัฐจริง เราก็ยินดีที่จะเสนอต่อที่ประชุมในวันนี้ หากหน่วยงานเอกชนยินดีที่จะให้ข้อมูล เรายินดีที่จะเสนอเชิญพยานอีกรอบเป็นรอบที่ 3” ณัฐชากล่าว

 

ณัฐชากล่าวอีกว่า วันนี้มีหลายฝ่ายลงพื้นที่ รวมถึงภาครัฐที่ลงพื้นที่หนักมาก วันนี้ก็ที่แสมดำ เขตบางขุนเทียน แต่นอกเหนือจากการลงพื้นที่ ประชาชนยังรอ 7 มาตรการของรัฐที่ใช้งบ 450 ล้านบาทในการแก้ปัญหา ซึ่งตนเห็นว่ายังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร เพราะ 7 มาตรการที่ออกมาสังคมทำอยู่แล้ว ทั้งการจับ ล่า แปรรูป แต่สิ่งที่เขารอคอยคือสาเหตุ สิ่งนี้ไม่ได้ยินจากฝ่ายบริหารเลย รวมถึงยังไม่มีการประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อปั๊มหัวใจเกษตรกรที่ล้มหายตายจากรายวัน

 

ณัฐชากล่าวยืนยันว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ เอาจริงกับการแก้ปัญหา ไม่ใช่การฟอกขาวให้กับเอกชน วันนี้เราต้องการทำข้อสงสัยของสังคมกระจ่าง เมื่อเข้าใจไม่ตรงกันจะเกิดปัญหากระทบกระทั่ง สิ่งเดียวที่ทำได้คือให้ความจริงปรากฏ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ถ้าความจริงปรากฏ เราจะรู้ว่าใครคือต้นตอ และจะบรรเทาอาการโกรธแค้นของเกษตรกรที่อยู่ในภาวะสิ้นเนื้อประดาตัว

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อการทำงานของคณะอนุกรรมาธิการฯ สิ้นสุดลง จะต้องมีผู้ที่ถูกดำเนินคดี รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่รับผิดชอบเรื่องระบบนิเวศ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีลูกค้าเป็นเกษตรกร, กระทรวงมหาดไทยที่ดูเรื่องกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ยังไม่มีการบรรเทาภัยให้ประชาชน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีต้องนั่งหัวโต๊ะแก้ไขปัญหา อย่าให้มีการครหาเหมือนกับหมูเถื่อนที่นายกฯ แอ็กชันตอนแรกแบบนี้ ซึ่งย้ำว่าจะไม่ให้ปลาเถื่อนจบแบบหมูเถื่อนแน่นอน

 

ณัฐชายังถามถึงคณะทำงานตามหาความจริงใน 7 วันที่ถูกตั้งที่โดยรัฐมนตรีว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น วันนี้ผ่านมา 7 วัน ตนขอตามหาคณะกรรมการฯ ตามหาความจริงให้เจอก่อน แล้วความจริงจะปรากฏ ซึ่งตนขอให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะตอนนี้ยังไม่มีความจริงปรากฏ จะทำให้ประชาชนเห็นได้ว่าความจริงใจของรัฐบาลเป็นอย่างไร

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising