หลังจากที่ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศ บริษัท กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ขอ 5 สัปดาห์ สร้างโรงงาน 100 ล้าน ผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรี จบโควิด-19 ยกให้โรงพยาบาลจุฬาฯ ทำให้ภารกิจการสร้างโรงงานนั้นต้องรวมหัวกระทิในเครือซีพีมาเร่งสร้างให้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘เร็วแต่มีคุณภาพ’ และต้องออกแบบ ก่อสร้างในมาตรฐานห้องคลีนรูมหรือห้องปลอดฝุ่น
ล่าสุดวันนี้ (17 มีนาคม) ทาง CP ออกมาเผยความคืบหน้าการสร้างโรงงานหน้ากากเพื่อคนไทย โดยระบุว่า การก่อสร้างครั้งนี้ได้ใช้ผู้เชี่ยวชาญ วิศวกรที่เชี่ยวชาญจากบริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทของ CP ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์สร้างโรงงานมาแล้วครอบคลุมกว่า 14 ประเทศ มากกว่า 140 โรงงาน
โดยภารกิจในครั้งนี้จะมาเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้าง ทั้งยังได้ผนึกกำลังเรียนรู้ไปพร้อมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่เข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ที่หลากหลายสู่ทีมงานวิศวกรรม เนื่องจากโรงงานที่ออกแบบนี้ต้องสะอาด มาตรฐานสากล และที่สำคัญคือต้องผลิตให้ได้ใน 5 สัปดาห์
ทั้งนี้ การสร้างโรงงานครั้งนี้นำโดย ศักดิ์ชัย บัวมูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิต ซึ่งมีประสบการณ์คร่ำหวอดในแวดวงการผลิตมาหลายสิบปี มาเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะหัวหน้าสายงานด้านวิศวกรรม และการออกแบบกระบวนการผลิตโรงงานซีพีผลิตหน้ากากฟรีเพื่อคนไทย
โดยศักดิ์ชัยกล่าวว่า พวกเรามีความภาคภูมิใจมากที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำภารกิจเพื่อประเทศ ซึ่งท่านประธานอาวุโสธนินท์เน้นย้ำเสมอว่า ต้องทำเร็วและต้องมีคุณภาพ เราจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ทั้งนี้ การออกแบบได้เริ่มต้นทันทีในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราต้องทำงานควบคู่กันหลายอย่างในเวลาจำกัด และต้องทำงานทั้งช่วงเช้าและค่ำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเราต้องใช้สรรพกำลังในการเคลียร์สถานที่ให้พร้อมในการก่อสร้าง
“หลังจากนั้นต้องเตรียมติดตั้งลิฟต์โดยสารและลิฟต์ขนของให้เสร็จ ซึ่งเราได้ใช้เวลาในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับปรุงช่องติดตั้งลิฟต์ ปรับอาคารด้านหน้า ปรับปรุงหลังคาเหล็ก และติดตั้งระบบไฟทั้งหมด และที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ออกแบบห้องคลีนรูมเสร็จสิ้น และเริ่มต้นในการสั่งของแล้ว ซึ่งในวันนี้จะเป็นการเร่งก่อสร้างในส่วนของห้องคลีนรูมให้เสร็จในสัปดาห์นี้
“ในการผลิตครั้งนี้ CP ได้ใช้เครือข่ายจากหลายประเทศในการหาเครื่องจักรมาใช้ในการผลิต ซึ่งเครื่องจักรขนาดใหญ่เหล่านี้ต้องใช้เวลาในการผลิตอย่างน้อย 5 สัปดาห์ แต่ด้วยการเป็น CP ทำให้เร่งกระบวนการผลิตเครื่องจักรในเสร็จใน 4 สัปดาห์ และต้องใช้ความสามารถในกระบวนการนำเข้าให้ทันเวลา ซึ่งการเตรียมเอกสารทั้งหมดคือความท้าทาย โดยมีอีกทีมงานช่วยจัดการด้านพิธีการเอกสารต่างๆ ในการนำเข้าเครื่องจักรก็ต้องทำควบคู่กันไป ในขณะที่วัตถุดิบที่หายากอย่างฟิลเตอร์ ก็ต้องประสานงานไปยังหลายประเทศเพื่อนำเข้า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความท้าทายอย่างมากในเวลาที่จำกัด” ศักดิ์ชัยกล่าว
ทางด้าน ภูมิชัย ตรัยตรานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งรับผิดชอบด้านการก่อสร้างโรงงานหน้ากากอนามัย กล่าวว่า โรงงานนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของบริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ในย่านพระประแดง โดยปัจจุบันได้ผ่านขั้นตอนการเทพื้นใหม่ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว เพื่อให้เป็นลักษณะปลอดฝุ่นตามมาตรฐานการผลิต ซึ่งมี 5 ขั้นตอน ดังนี้
- การเตรียมผิว
- ขั้นตอนการทาสีรองพื้นอีพ็อกซี
- ขั้นตอนการทาสีชั้นกลาง
- ขั้นตอนการเก็บความละเอียดผิวก่อนลงสีอีพ็อกซีชั้นทับหน้า
- ขั้นตอนการลงสีทับหน้าชั้นสุดท้าย
สำหรับในสัปดาห์ต่อไปจะเป็นเรื่องการประกอบห้องต่างๆ ตามที่ได้ออกแบบไปแล้ว รวมถึงการเตรียมการด้านระบบสื่อสาร เนื่องจาก CP ไม่เคยผลิตหน้ากากอนามัยมาก่อน ทำให้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกมาให้คำแนะนำ ผ่านระบบ Teleconference ประชุมทางไกล รวมถึงเครื่องจักรที่นำเข้าจะเป็นแบบออโตเมติก
ดังนั้น จะเชื่อมโยงแบบ IOT ทำให้กลุ่มทรูเริ่มเข้ามาวางระบบสื่อสาร ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งจะทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของเครื่องจักรทั้งหมดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
“ทีมงาน พนักงาน วิศวกรทั้งหมด ที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ต้องมาเร่งลุ้นให้กำลังใจทีมงานภารกิจสำคัญเพื่อประเทศ ว่าจะเสร็จได้ทัน 5 สัปดาห์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ทุกคนที่เข้ามาทำด้วยใจและความทุ่มเท เพราะรู้ดีว่า หน้ากากทุกชิ้นจากโรงงานจะถึงมือคนไทยฟรี ทำให้บรรเทาความทุกข์คนไทยจากภัยโควิด-19 ได้ไม่มากก็น้อย” ภูมิชัยกล่าวในที่สุด