ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลก ทุกก้าวเดินต้องเคลื่อนตัวในจังหวะที่เร็วขึ้น จนอาจทำให้ ‘คุณธรรม’ บางอย่างถูกกลืนหายไปในพลวัตของความเจริญ ความท้าทายที่ต้องทำงานดูแลตนเองจนลืมคนที่เรารักและรักเรา หรือตีความหมายผิดเพี้ยนเป็นการเรียกร้องการตอบแทน ซึ่งก็เกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ที่ผู้คนในแต่ละรุ่นยึดถือและต้องการ จนไม่ได้มองความหมายแท้จริงของคุณค่าความกตัญญู
“ซึ่งแท้จริงแล้ว ความกตัญญูเป็นคุณค่าประจำตน ต้องเกิดจากตนเอง เกิดจากความรัก ความหวังดีต่อคนอื่น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ต้องการให้คนอื่นมาทำดีกับเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่เกื้อกูลให้มนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความสงบ และมีความเจริญรุ่งเรือง มีมาตรฐานชีวิตที่ดีขึ้น เป็นพื้นฐานที่สำคัญ ที่หากเข้าใจและเกิดขึ้นในครอบครัว ในบริษัท ในระบบสังคม จะงอกงามและเป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศของเรา
“ด้วยความเชื่อในคุณค่าความกตัญญู เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นบ่มเพาะค่านิยมอันดีงามนี้ลงไปในดีเอ็นเอของพนักงานทุกระดับในองค์กร โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ในองค์กร ปลูกฝังให้พวกเขามีทัศนคติที่ถูกต้อง รวมถึงการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์กตัญญูลงไป ให้เขามีมุมมองที่เห็นส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พร้อมกับการก้าวสู่ยุคใหม่ทางเศรษฐกิจ ที่ต้องสร้างนวัตกรรมควบคู่ไปกับความยั่งยืน
“การเอาใจใส่ สร้างความไว้วางใจ ความพึงพอใจ มอบความซื่อสัตย์และความซื่อตรงให้กับลูกค้าและคู่ค้าที่ทำงานร่วมกับเขา นี่คือสิ่งสำคัญที่จะแสดงความยึดมั่นขององค์กร เมื่อใดก็ตามที่มีความกตัญญู ความรัก และความเมตตา (Compassion) ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง คุณธรรมความกตัญญูนี้ จะมีพลังที่สามารถทำในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้”
ปีนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นส่งต่อคุณธรรมกตัญญูภายใต้แนวคิด ‘ความกตัญญูทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้…เป็นไปได้’ ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวภาพยนตร์สั้น เรื่อง กตัญญู…เท่าชีวิต เพื่อให้พนักงานทุกระดับในองค์กรตั้งคำถามและคิดถึงคุณค่าของคุณธรรมกตัญญู โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า กตัญญูสำหรับบางคนมีค่าเท่าชีวิต แล้วเราล่ะ กตัญญูมีค่าเท่ากับอะไร
กตัญญู…เท่าชีวิต เล่าถึงเด็กสาวคนหนึ่งที่ตัดสินใจลงแข่งวิ่งมาราธอนด้วยขาเพียงข้างเดียว เพราะความรักที่เธอมีต่อพ่อและต้องการดูแลพ่อของเธอ สุดท้ายแล้ว ความกตัญญูทำให้เธอชนะใจทุกคน เธอชนะการแข่งขันด้วยความช่วยเหลือของชาวบ้านและหมอที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน เข้ามาให้การช่วยเหลือเธอและพ่อ ไม้ค้ำยันช่วยเดินที่เขียนว่า ‘หากเป็นแทนได้ พ่อขอเป็นแทน’ นี่อาจจะเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่เป็นตัวแทนสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างพ่อและลูก นี่แหละความอัศจรรย์ของชีวิต ที่หล่อเลี้ยงให้โลกใบนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างอบอุ่น งดงาม ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่หมุนเร็วในทุกวันนี้ และเป็นพลังของความกตัญญูที่เปลี่ยนความเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจึงอยากชวนทุกคนไปค้นหาความกตัญญูในแบบของคุณผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้
ทั้งหมดนี้ตอกย้ำทุกก้าวย่างการดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่หนักแน่นและมั่นคงด้วยรากแก้วของเมล็ดพันธุ์คุณธรรมกตัญญู ที่แผ่ขยายเมล็ดพันธุ์จากหน่วยเล็กๆ แต่สำคัญที่สุด นั่นคือครอบครัว ซึ่งเป็นรักแรกและรักแท้จากพ่อแม่ พี่น้อง ต่อยอดแตกกิ่งไปสู่สังคมต่อไป
ซึ่งทางเครือฯ มองว่า เมื่อแบรนด์สามารถปลูกจิตสำนึกกตัญญูของทุกคนจากภายในองค์กรไปสู่ครอบครัว สู่สังคมและประเทศแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ คนในสังคมจะเป็นสังคมที่เคารพ ให้เกียรติ และสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ย่อมสร้างให้เกิดสังคมที่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ทำได้จริงและทำได้ง่ายๆ เพราะความกตัญญูเติบโตที่ไหน ที่นั่นย่อมงดงามเสมอ