สหราชอาณาจักรรายงานจำนวนผู้ติดโควิดรายวันที่ 51,870 รายในวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 กรกฎาคม) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมปีนี้ ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 49 ราย ภายใน 28 วัน หลังทราบผลตรวจโควิดเป็นบวก
ก่อนหน้านี้ ศ.คริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าทุกๆ 3 สัปดาห์ พร้อมกับเตือนว่า ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจสูงจนน่ากลัว
ศ.วิตตี ยังกล่าวด้วยว่า สหราชอาณาจักรยังไม่พ้นจากอันตราย และประชาชนยังคงต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ทางการเตรียมยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในอังกฤษ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคมนี้
ก่อนหน้านี้สถิติผู้ติดโควิดรายวันสูงสุดในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 68,053 รายในวันที่ 8 มกราคม
รัฐมนตรีสาธารณสุข ซาจิด จาวิด เตือนก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจสูงถึง 50,000 รายต่อวันภายในวันที่ 19 กรกฎาคม และอาจสูงถึง 100,000 รายในช่วงฤดูร้อน
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) เผยให้เห็นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกในหลายพื้นที่ของสหราชอาณาจักร โดยตัวเลขล่าสุดจากการตรวจ Swab ในชุมชน พบว่า 1 คน ในทุก 95 คนในประเทศอังกฤษ ติดเชื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1 คน ใน 160 คน เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะที่ในสกอตแลนด์คาดว่ามีผู้ติดเชื้อ 1 คน ในทุกๆ 90 คน ส่วนในไอร์แลนด์เหนือ ตัวเลขอยู่ที่ 1 คน ใน 290 คน และเวลส์ 1 คน ใน 360 คน
และพบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบทุกรายติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ทั้งนี้ ประมาณการว่าประชากรมากกว่า 650,000 คน หรือ 1% ของประชากรในสหราชอาณาจักร จะมีผลตรวจโควิดเป็นบวกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 400,000 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า
ONS ระบุว่า อัตราร้อยละของผู้ที่มีผลการตรวจโควิดเป็นบวกยังคงเพิ่มขึ้นในอังกฤษและสกอตแลนด์ ขณะที่ในเวลส์และไอร์แลนด์เหนือนั้นแนวโน้มไม่แน่นอน
ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนต้องแยกกักตัว ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ขาดแคลนพนักงาน
รายงานระบุว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ทางการได้ส่งการแจ้งเตือนเรื่องการแยกกักตัวมากกว่า 500,000 ครั้งไปยังผู้ที่ใช้แอปฯ NHS COVID-19 ในอังกฤษและเวลส์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 46% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ดังกล่าว เพื่อแจ้งให้บุคคลนั้นๆ ทราบว่าพวกเขาสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และควรแยกตัวเป็นเวลา 10 วัน
จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดโควิดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าในช่วงก่อนหน้านี้อย่างมาก เนื่องจากการฉีดวัคซีน
ตัวเลขล่าสุดระบุว่า ประชากรมากกว่า 46.1 ล้านคนในสหราชอาณาจักร หรือคิดเป็นผู้ใหญ่ 87.6% ได้รับวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้ว ขณะที่ผู้ใหญ่มากกว่า 35.5 ล้านคน หรือ 67.5% ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว
จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นจนทะลุ 50,000 คน มีขึ้นก่อนที่ทางการอังกฤษเตรียมยกเลิกการล็อกดาวน์ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เช่นเดียวกับในสกอตแลนด์ที่เตรียมผ่อนคลายมาตรการในวันเดียวกัน แต่ยังคงกฎข้อบังคับบางอย่าง เช่น การพบปะรวมกลุ่มกัน
ส่วนในเวลส์นั้นจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดเล็กน้อยในวันเสาร์นี้ ในขณะที่ข้อจำกัดส่วนใหญ่จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมเป็นอย่างน้อย
สำหรับในไอร์แลนด์เหนือมีกำหนดยกเลิกการใช้ข้อจำกัดเพิ่มเติมในวันที่ 26 กรกฎาคม
ก่อนหน้านี้ ส.ส. ลูซี เฟรเซอร์ จากพรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หากไม่ปลดล็อกดาวน์ก็จะมีผลกระทบตามมาหลายประการ
อย่างไรก็ตาม เธอได้กล่าวกับ Sky News ในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลไม่ปฏิเสธว่าอาจมีการนำข้อจำกัดต่างๆ กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง หากสถานการณ์แพร่ระบาดเลวร้ายจนถึงขั้นยอมรับไม่ได้
ภาพ: Mike Kemp via Getty Images
อ้างอิง: