กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า กรณีการติดโควิด-19 รายใหม่ อาจแตะระดับ 13,000 รายต่อวันภายในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ หากประชาชนยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
การประเมินดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลแบบจำลองสถานการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 พฤษภาคม) ซึ่งคาดว่าผู้ติดโควิด-19 ในมาเลเซีย จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดพื้นฐาน
ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และสูงสุดที่กว่า 9,000 รายต่อวันเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 7,000 รายต่อวันในปัจจุบัน
ดร.นูร์ ฮิชาม อับดุลลอฮ์ อธิบดีกรมอนามัยของมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า มาเลเซียยังไม่พ้นช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดที่รุนแรง พร้อมขอให้ประชาชนอยู่บ้านและปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์
“โปรดอยู่บ้านและล็อกดาวน์ตัวเอง หากคุณมีความจำเป็นในเรื่องเร่งด่วน โปรดปฏิบัติตามขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานในการป้องกันการแพร่ระบาด (SOPs) ภาวนาให้การล็อกดาวน์ครั้งนี้ลดอัตราการติดเชื้อได้ทันเวลา” ดร.นูร์ ฮิชาม ระบุในโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์
ทั้งนี้ มาเลเซียเริ่มต้นการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วานนี้ (1 มิถุนายน) โดยสั่งปิดสถานประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตและสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นพื้นฐานนั้นได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ ขณะที่ประชาชนแต่ละครัวเรือนจะได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านไปซื้อสิ่งของหรือใช้บริการทางการแพทย์ได้ครั้งละไม่เกิน 2 คน โดยจำกัดการเดินทางในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในมาเลเซียนั้นพุ่งสูงเกือบ 580,000 รายแล้ว และเสียชีวิตกว่า 2,800 ราย และมีผู้ติดเชื้ออาการหนักที่ยังอยู่ในห้อง ICU ราว 870 คน ทำให้เริ่มประสบปัญหาผู้ป่วย ICU ล้น และโรงพยาบาลต้องจัดลำดับความสำคัญในการให้เตียง ICU แก่ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มฟื้นฟูอาการได้ดี มากกว่าผู้ป่วยที่อาการทรุดลงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ห้องเก็บศพในโรงพยาบาลของรัฐก็เริ่มไม่เพียงพอและประสบปัญหาในการรองรับศพผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องจัดเก็บในที่เก็บศพแบบพิเศษที่หน่วยงานนิติเวชจัดหาให้
นอกจากนี้พบว่า เมื่อวานนี้ทางการมาเลเซียยังตรวจพบคลัสเตอร์การระบาดใหม่อีก 27 ราย ทำให้ทั่วประเทศตอนนี้มีคลัสเตอร์การระบาดที่ยังคงติดเชื้ออยู่มากถึง 668 จุด ซึ่งพบทั้งในสถานที่ทำงาน แหล่งชุมชน และสถานประกอบกิจกรรมทางศาสนา
ภาพ: Wong Fok Loy / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: