วันนี้ (13 มีนาคม) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ขยายตัวต่อเนื่อง แม้ในจีนมีสัญญาณเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังกระจายตัวไปทั่วโลก ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยกระดับโควิด-19 เป็น ‘การระบาดครั้งใหญ่ของโลก’ กลายเป็นความเสี่ยงภาคธุรกิจและกระทบต่อการส่งออกไทย
ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับมือคำสั่งซื้อสินค้าที่จะลดลงอีกในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 ตามการแพร่กระจายของไวรัสไปยังแต่ละประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีตลาดหลักทั้งจีน สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น คงต้องรับมือกับกำลังซื้อที่ลดลงยาวนานจนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอาจเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโลก คาดว่าจะเห็นการส่งออกของจีนไปตลาดโลกเร่งตัวขึ้นสูงในกลุ่มสินค้าเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อานิสงส์ให้การส่งออกของไทยไปจีนกระเตื้องขึ้นในกลุ่มสินค้าขั้นกลางของไทยที่ช่วยสนับสนุนการผลิต โดยเฉพาะยางพารา เส้นใยสังเคราะห์ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น รวมทั้งสินค้าในกลุ่มอาหารและสินค้าจำเป็นของไทยก็น่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ไทย อุปกรณ์การแพทย์ ถุงมือทางการแพทย์ เป็นต้น
ทว่าแม้การส่งออกไปจีนจะเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาส 2/2563 แต่คงไม่เพียงพอที่จะดึงภาพรวมการส่งออกของไทยไปจีนทั้งปีให้กลับมาเร่งตัว เนื่องจากบรรยากาศกำลังซื้อของจีนคงอ่อนแรงตลอดช่วงที่เหลือของปี
ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การส่งออกของไทยไปจีนปี 2563 ไม่ต่างไปจากที่คาดการณ์เดิมว่าจะหดตัวราวร้อยละ 6-9 ซึ่งการอาศัยเพียงตลาดจีนอย่างเดียวคงไม่สามารถกู้วิกฤตการส่งออกของไทยให้ฟื้นกลับมาได้ในทันที โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมองว่าการส่งออกของไทยไปตลาดโลกในปี 2563 จะยังหดตัวที่ 5.6%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า