สถานการณ์การระบาดของโควิด-19ในประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 2-3 พันรายต่อวันอย่างต่อเนื่องจากการระบาดรอบใหม่ที่เป็นสายพันธุ์อังกฤษ แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่เริ่มพบจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ในไทยเพิ่มอีก 137 ราย ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ของสายพันธุ์ ไวรัสโควิด-19 คาดว่าภายในไม่เกิน 2-3 เดือน สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) เนื่องจากการแพร่ระบาดที่เร็วกว่า 40%
สอดคล้องกับข้อมูลของ ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ว่า “เราเห็นว่าสายพันธุ์อินเดียมาโผล่ครั้งแรกคือใจกลางกรุง แสดงว่าสายพันธุ์นี้มีการเดินทางเข้ามาและมีการส่งต่อและมีการแพร่ระบาดน้อยๆ เกิดขึ้นในชุมชนอยู่แล้ว เราตรวจพบมันโดยบังเอิญจากคลัสเตอร์แรงงานก่อสร้างใจกลางเมือง และเราก็เริ่มเห็นสัดส่วนของมันเพิ่มขึ้น ก็เป็นไปตามบริบทของต่างประเทศคือประมาณ 2 เดือนมีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในประเทศไทย
“ถ้าสายพันธุ์อินเดียระบาดหนักกลายเป็นสายพันธุ์หลัก เรามีโอกาสสูงที่จะเห็นผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจากช่วงระยะนี้ เพดานจะอยู่ 2-3 พันคนต่อวัน จะเริ่มเพิ่มขึ้นอาจจะเริ่มเห็น 4-5 พันคนต่อวันถ้าเราดูบริบทของประเทศอังกฤษ อันที่สองคือเรารู้ว่าสายพันธุ์อินเดียการฉีดวัคซีน 1 เข็มช่วยน้อย จะทำให้การบริหารวัคซีนยากขึ้น เพราะการระดมฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็มเป็นวงกว้างมันอาจจะช่วยตัดตอนสายพันธุ์อังกฤษได้ แต่ถ้าในอีก 2 เดือนข้างหน้าสายพันธุ์ที่ระบาดไม่ใช่สายพันธุ์อังกฤษแล้ว การฉีดวัคซีน 1 เข็มก็อาจจะไม่มีผลอะไรเท่าไร” ศ.นพ.มานพ กล่าว
แนวโน้มการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียกำลังจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศไทยนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศนับถอยหลังเปิดประเทศใน 120 วันของนายกรัฐมนตรี โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การฉีดวัคซีนให้ประชาชนเข็มแรก 50 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลทางการแพทย์ชัดเจนว่าการฉีดวัคซีนเข็มเดียวแม้จะเป็นยี่ห้อ AstraZeneca ก็ไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้ ยังไม่นับว่าขณะนี้วัคซีนหลักที่ใช้ในประเทศไทยช่วงเดือนมิถุนายนคือวัคซีน Sinovac ซึ่งการฉีดเข็มแรกของวัคซีน Sinovac ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้นกันได้
ศ.นพ.มานพ ระบุว่า “ถ้าเข็มแรกของ AstraZeneca กับสายพันธุ์อังกฤษอาจจะพอไหว แต่ถ้าเป็น Sinovac เราไม่ได้รับประกันขนาดนั้น เพราะว่าภูมิคุ้มกันการฉีด Sinovac เข็มแรกเข็มเดียวไม่ดี ภูมิคุ้มกันขึ้นน้อยมาก ข้อมูลในประเทศต่างๆ การฉีด Sinovac เข็มเดียวมีภูมิขึ้น 15-16% เพราะฉะนั้นมันก็เทียบเท่ากับการไม่ได้ฉีด
“ภูมิคุ้มกันของ AstraZeneca ต่อสายพันธุ์อังกฤษ เข็มเดียวอาจจะพอไหว คือเกิน 50% หรือใกล้ 60% แต่ถ้าสมการของการระบาดเปลี่ยนจากสายพันธุ์อังกฤษเป็นสายพันธุ์อินเดีย หรือสายพันธุ์เดลตา สมการก็เปลี่ยน เพราะประสิทธิภาพการป้องกันสายพันธุ์เดลตาของ AstraZeneca เข็มเดียวน้อยมาก แค่ 33% ซึ่งแปลว่าฉีดแล้วส่วนใหญ่จะป้องกันไม่ได้”