ทีมอาสา ‘เราต้องรอด’ เริ่มจากการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ยังรอเตียงอยู่ ด้วยการนำเครื่องผลิตออกซิเจนไปช่วยประคองอาการระหว่างรอเตียง ช่วงปลายเดือนเมษายนหลังการระบาดระลอกสาม เป็นช่วงที่เคสรอเตียงเริ่มเยอะ เพราะโรงพยาบาลสนามต่างๆ ยังไม่เปิดรองรับผู้ป่วย หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มดีขึ้น จนกระทั่งยอดผู้ป่วยสะสมสูงเฉลี่ย 5,000-6,000 คนต่อวัน กลายเป็นว่าปัจจุบันสถานการณ์ผู้ป่วยรอเตียงวิกฤตที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา
“เกือบทุกเคสที่ไปช่วยตอนนี้คืออาการหนักทุกเคส บางเคสหายใจไม่ได้ ทุกเคสคือถ้าเราไม่เข้าไปช่วยในวันนั้น วันรุ่งขึ้นมาเขาอาจไม่หายใจแล้วก็ได้ แต่บางเคสที่เราไปช่วยแล้วเขาทรุดจริงๆ เขาจากไปหลังเราไปช่วยก็มี บางเคสเราก็ไปช่วยไม่ทัน ผ่านไป 1 ชั่วโมงหลังรับแจ้งก็เสียชีวิตแล้ว มีเกือบทุกวันที่มีผู้ป่วยที่เราดูแลเสียชีวิต”
ต้าร์-คชานนท์ แข็งการ ทีมอาสาสมัครเราต้องรอด บอกกับ THE STANDARD ถึงภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่รอเตียงอยู่ที่บ้าน พวกเขามีทีมงานเพียง 6 คน และรถฉุกเฉิน 2 คัน แต่มีเคสผู้ป่วยโควิดที่โทรมาขอความช่วยเหลือจำนวนมาก
“ทุกวันนี้ผมกล้าพูดเลยว่าวิกฤต ผู้ป่วยนอนพะงาบๆ โทรไปแจ้งอาการ เขาก็บอกว่ายังหาเตียงไม่ได้ เหมือนบางครั้งเราไปช่วยเขาขนย้ายผู้ป่วยที่อาการหนักเสียชีวิตคารถก็มี เพราะว่าเคลียร์เตียงปลายทางไม่ทัน”
จากข้อมูลของ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิดพบว่า จากวันที่ 1-7 กรกฎาคม ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตแล้วรวม 364 ราย ขณะที่กรมควบคุมโรคระบุ เดือนเมษายนมีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตนอกโรงพยาบาล 26 ราย หลังถูกตั้งคำถามว่าไม่นับรวมยอดผู้ติดเชื้อที่ยังไม่เข้าโรงพยาบาล
และจากสถิติผู้สูงอายุติดเชื้อโควิด 10 คน จะเสียชีวิต 1 คน แต่มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เพียง 0.9% (ข้อมูลวันที่ 7 กรกฎาคม) ศบค. คาดว่าสัปดาห์หน้าอาจจะเห็นผู้ป่วยโควิดทะลุ 10,000 คนต่อวัน
สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อทีมงานเราต้องรอดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก: เราต้องรอด @savethailandsafe
ภาพ: ศศิพิมพ์ อนันตกรณีวัฒน์,ธเนศ จึงสุขสันต์
ตัดต่อ: อัศวพล ตุลานนท์