วันนี้ (15 เมษายน) พล.ต.ต. ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าคดีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ (ปริญญ์ พานิชภักดิ์) ล่อลวงนักศึกษาสาววัย 18 ปี ไปกระทำอนาจารบนร้านอาหารชั้นดาดฟ้าในย่านสุขุมวิท ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ว่าข้อมูลที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุและการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องหลายปาก ถึงขณะนี้มั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในวันพรุ่งนี้ (16 เมษายน) ทั้งนี้ เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจสามารถรวบรวมได้จะทำให้ศาลเชื่อในพฤติการณ์ของผู้ต้องหาและจะออกหมายจับให้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
พล.ต.ต. ไตรรงค์ ยังย้ำด้วยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามขั้นตอน ไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือดึงคดี จะเห็นได้จากไทม์ไลน์เวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความในวันที่ 12 เมษายน ในวันพรุ่งนี้ก็จะไปขอศาลออกหมายจับแล้ว จึงขอให้สังคมมั่นใจว่าคดีดังกล่าวจะไม่มีการช่วยเหลือกันทางคดีอย่างแน่นอน แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นนักการเมืองหรืออดีตรองหัวหน้าพรรคดังก็ตาม
สำหรับคดีของผู้เสียหายรายอื่น ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อไปขอให้ศาลออกหมายจับในลักษณะเดียวกัน แต่เนื่องจากพฤติการณ์การก่อเหตุเป็นช่วงเวลาที่ต่างกัน จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานอีกสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ ยังไม่มีแนวความคิดรวมคดีทุกคดีเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากผู้เสียหายคนละคนและช่วงเวลาการเกิดเหตุที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายบางรายเชื่อว่าพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนมีความผิดปกติทางจิต คล้ายคนมีอาการไบโพลาร์ หรือบุคลิกแตกต่างสุดขั้ว เกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจใช้ประเด็นดังกล่าวในการต่อสู้ทางคดี พล.ต.ต. ไตรรงค์ กล่าวว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนไปรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประวัติการรักษาของผู้ก่อเหตุแล้ว แต่เชื่อว่าแม้จะมีอาการป่วยทางจิตก็ไม่มีผลต่อการดำเนินคดีของตำรวจ