วันนี้ (26 มีนาคม) ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบศ. ครั้งที่ 1/2564 ว่าที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รับวัคซีนแล้ว ทั้งนี้ สถานการณ์การรับวัคซีนโควิด-19 ของทั้งโลกตอนนี้รับแล้ว 468 ล้านโดส ใน 145 ประเทศ เฉลี่ยวันละ 11.3 โดสต่อวัน ซึ่งจะเห็นว่ามีคนพร้อมเดินทางอยู่แล้ว และจากการสำรวจพบว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ในทุกตลาดนักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวจะเลือกประเทศที่ไม่ต้องกักตัว และเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กำหนดไว้แล้วว่า ในไตรมาส 4 ของปีนี้จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว เราจึงอยากทดลองในบางพื้นที่ก่อนจึงเป็นที่มาของ ‘ภูเก็ตSandbox’ ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตเลยตั้งแต่ไตรมาส 3 หรือวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
สำหรับแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรองมีดังนี้
ไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ซึ่งจะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้ว แต่ต้องกักตัวในพื้นที่โรงแรม 7 วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่ได้อยู่ในห้อง แต่จะกักตัวในบริเวณโรงแรม จากนั้นจะกำหนดพื้นที่ Seal Route เพื่อให้ไปท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ที่กำหนด โดยพื้นที่แรกที่จะเริ่มในไตรมาส 2 คือจังหวัดภูเก็ต ก่อนขยายไปพื้นที่อื่น เช่น กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่
ไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน) จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่รับวัคซีนแล้วบินตรงมาที่ภูเก็ต เมื่อตรวจโควิด-19 ผลเป็นลบแล้วจะไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในจังหวัดภูเก็ต แต่จะเป็นพื้นที่ใดบ้างต้องมีการศึกษาทดลองจากพื้นที่ Seal Route ในไตรมาส 2
ไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) พื้นที่เป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนและผลตรวจโควิด-19 เป็นลบจะไม่ต้องกักตัว แต่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันควบคู่ เช่น แอปพลิเคชันติดตามตัว
ยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า การทำภูเก็ต Sandbox เป็นพื้นที่นำร่อง จะมีการจัดสรรวัคซีนเข้าไปก่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ โดยตั้งเป้าการเปิดภูเก็ตในไตรมาส 3 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาภูเก็ตไม่น้อยกว่า 1 แสนคน กลุ่มหลักคือกลุ่มยุโรป อังกฤษ สแกนดิเนเวีย เยอรมนี รัสเซีย ยูเออี และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตัวเลขนี้มาจากการสำรวจตลาดในเบื้องต้น แต่หากทำการตลาดต่อไปอาจมีเข้ามามากกว่านั้น สำหรับรายละเอียดต่างๆ ว่ามาแล้วต้องทำอย่างไร แผนการกระจายวัคซีนเป็นอย่างไร ททท. จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ส่วนการเปิดพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ให้เดินทางมาได้โดยไม่ต้องกักตัวนั้น จะมีแผนการกระจายวัคซีนให้คนในพื้นที่ 70% ซึ่งมั่นใจว่ามีวัคซีนเพียงพอ และสามารถกระจายได้ทัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์