วันนี้ (18 สิงหาคม) สหรัฐอเมริกามียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วเกิน 1.7 แสนรายทั่วประเทศ โดยรัฐนิวยอร์กเป็นรัฐที่มียอดผู้เสียชีวิตสะสมมากที่สุดถึง 32,435 ราย หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ ยังคงเผชิญหน้ากับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในสหรัฐฯ (632,796 ราย) ตามมาด้วยรัฐฟลอริดา (573,408 ราย) และรัฐเท็กซัส (561,794 ราย)
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านมาแล้วถึง 7 เดือนครึ่ง ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมแตะ 22 ล้านรายแล้ว (22,036,529 ราย) รักษาหายกว่า 14.7 ล้านราย (14,775,864 ราย) หรือคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 776,862 อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 3.6% โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินวันละ 1 แสนราย ติดต่อกันนานถึง 83 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก (5,612,011 ราย) ตามมาด้วยบราซิล (3,359,570 ราย) อินเดีย (2,701,604 ราย) รัสเซีย (927,745 ราย) และแอฟริกาใต้ (589,886 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 181 จาก 193 ประเทศทั่วโลก มีเพียงซานมารีโน บรูไน เซนต์ลูเซีย โดมินิกา เซนต์คิตส์และเนวิส
และนครรัฐวาติกันเท่านั้นที่ผู้ป่วยโควิด-19 อาการหายดีแล้ว และยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม
